ค่าเงินแข็งดันตลาดซื้อ-ขายอาคารเชิงธุรกิจแดนลุงแซมคึกคัก

เจแอลแอลเผยตลาดลงทุนซื้อขายอาคารเชิงธุรกิจทั่วโลกโตขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 1 อเมริกาเป็นภูมิภาคที่แอ็คทีฟสูงสุด ในขณะที่ตลาดซื้อ-ขายในญี่ปุ่นคึกคักสุดในเอเชียแปซิฟิก

จากการสำรวจโดยบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์) พบว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 นี้ มีการลงทุนซื้อขายอาคารที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจ ได้แก่ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าและโรงแรม เกิดขึ้นทั่วโลกคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 148,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 4.73 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสหนึ่งของปี 2557 ราว 4%

อเมริกาเป็นภูมิภาคที่มีการลงทุนซื้อขายเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 18% ส่วนเอเชียแปซิฟิกขยายตัว 3% ในขณะที่ยุโรปและตะวันออกกลางมีมูลค่าการซื้อขายลดลง 11% แต่เมื่อคิดเป็นสกุลเงินท้องถิ่น พบว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% สะท้อนให้เห็นถึงการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศอื่นๆ หลายประเทศ

นายอาร์เธอร์ เดอ ฮาสต์ ผู้อำนวยการหน่วยบริการด้านการลงทุนของเจแอลแอล กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนการขยายตัวของตลาดการลงทุนซื้อขายอาคารของภูมิภาคอเมริกา โดยในไตรมาสแรกของปีนี้มีการลงทุนซื้อขายขยายตัวเพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นยังทำให้มูลค่าการลงทุนซื้อขายในหลายประเทศของภูมิภาคอื่นๆ อาทิ กลุ่มประเทศในยูโรโซน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ลดลงหรือขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่มากเมื่อคิดเป็นสกุลเงินดอลลาร์

สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปริมาณการลงทุนซื้อขายในไตรมาสแรกมักไม่คึกคักมากนัก โดยไตรมาสแรกของปีนี้มียอดรวมทั้งสิ้น 24,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีที่แล้วเพียง 3% ญี่ปุ่นยังเป็นตลาดที่มีการลงทุนซื้อขายอาคารมูลค่าสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี เจแอลแอลประมานการณ์ว่าตลอดปี 2558 นี้ ยอดการลงทุนซื้อขายทั่วโลกจะมีมูลค่าประมาณ 740,000-760,000 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ราว 4%

ด้านนายเดวิด กรีน มอร์แกน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านตลาดทุนของเจแอลแอลกล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์โลกยังคงได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเวียนเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยมีรายการลงทุนซื้อขายอาคารรายการใหญ่ๆ ที่คาดว่าจะปิดการซื้อขายภายในปีนี้หลายรายการ แม้ธนาคารกลางของสหรัฐฯ มีทีท่าว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่ประเทศใหญ่อื่นๆ ทั่วโลกมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม ดังนั้น คาดว่าอสังหาริมทรัพย์จะยังคงสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ความสนใจ

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่