บิ๊กแลนด์ลอร์ดสมุทรปราการเดินหน้าผุดคอนโดฯ โครงการแรกของบริษัท ปักหมุดย่านสำโรง ชูไฮไลท์ติดจุดตัดรถไฟฟ้า 2 สาย เคาะราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านบาท
หลังจากที่แผนการพัฒนารถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่งไปยังฝั่งสำโรงในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ทำให้บรรดาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของที่ดินในทำเลดังกล่าวพาเหรดกันนำที่ดินในมือออกมาพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ล่าสุด บริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ในเครือว่องไววิทย์ อุตสาหกรรมจักรกล ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์ลอร์ดเจ้าใหญ่ที่มีที่ดินในย่านดังกล่าวสะสมอยู่หลายแปลง ได้ประกาศแผนเดินหน้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ มูลค่า 5,500 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์” (The Metropolis Samrong Interchange) โดยจะกลายเป็นคอนโดฯ ที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในย่านสำโรงเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปี 2560
นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด เปิดเผยว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมช่วงไตรมาส 2 มีการเติบโตในบางเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้าที่มีระดับความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บวกกับการเปิดการค้าเสรีอาเซียนทำให้มีทุนนอกและนักธุรกิจ คนทำงานหลั่งไหลเข้ามา ในส่วนของบริษัทเองนั้นได้รับอานิสงส์จากแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในการอนุมัติส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเหลือง ส่งผลให้เมืองสมุทรปราการมีการปรับตัวครั้งใหญ่ ทำให้บริเวณถนนบางนา-ตราดและถนนเทพารักษ์จะกลายเป็นทำเลทอง โดยบริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่หลายแปลง เบื้องต้นได้นำเอาที่ดินบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS สำโรงซึ่งติดกับถนนสุขุมวิท ซึ่งคาดว่ามีดีมานด์ในพื้นที่สะสมมากที่สุดมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกของบริษัท
สำหรับโครงการเดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8 ไร่ 149 ตารางวา พัฒนาเป็นอาคารชุดพักอาศัย 3 อาคาร รวม 1,770 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A ความสูง 39 ชั้นจำนวน 1,056 ยูนิต, อาคาร B ความสูง 30 ชั้นจำนวน 552 ยูนิต และ อาคาร C ความสูง 7 ชั้น จำนวน162 ยูนิต และอาคารจอดรถ 5 ชั้น 1 อาคาร รวมที่จอดรถประมาณ 750 คัน (ไม่รวมซ้อนคันคิดเป็น 42%)
โดยห้องชุดในโครงการดังกล่าวเป็นห้องตกแต่งครบชุด ประกอบด้วยห้องแบบสตูดิโอ พื้นที่ 28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท, ห้อง 1 ห้องนอน พื้นที่ 35 – 45 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท, ห้อง 2 ห้องนอน พื้นที่ 52 – 53 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร (ส่วนที่เป็นฝ้าหลุม 2.75 เมตร) ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 75,0000 บาทต่อตารางเมตร
ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA)
“นโยบายของเราคือการใส่ใจกับรายละเอียด คนที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเขาเก็บเงินมาทั้งชีวิต ดังนั้นเราไม่ใช่แค่สร้างที่อยู่อาศัย แต่เราสร้างการยอมรับด้วย ปีนี้เราได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากทำบ้านจัดสรร ธุรกิจแนวราบมาเป็นคอนโดมิเนียม ดึงคนหมู่มาก กลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น แต่คิดว่าน่าจะได้รับผลตอบรับดี เพราะที่ตั้งเป็นทำเลทองและคาดว่าจะเป็นมหานครแห่งใหม่ในอนาคต” นายเฉลิมชัย กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่