เคยหรือไม่…เวลาที่เดินๆ อยู่ในบ้านแล้วสะดุดล้มเพราะข้าวของที่วางรก ไม่เป็นที่เป็นทาง หรือมือไม้ไปปัดป้องจนของตกหล่นในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้สามารถอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ว่าเป็นเรื่องของแรงโน้มถ่วง หรืออีกนัยน์หนึ่งก็คือบ้านหรือห้องของคุณเริ่มมีสิ่งที่ “ไม่จำเป็น” เยอะเกินไปแล้วนั่นเอง
ปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของบ้านเป็นคน “ขี้เสียดาย” และมักจะคิดว่า “เก็บเอาไว้ก่อน เผื่อจะได้ใช้วันหลัง” เพราะบรรดาของใช้เหล่านี้ต่างจากพวกของกินที่มีวันหมดอายุระบุแน่นอน แต่เชื่อเหอะ ของที่อยู่ในลิสต์ต่อไปนี้ หากคุณเอาไปรีไซเคิล บริจาค หรือขายต่อ น่าจะมีประโยชน์มากกว่าการเก็บเอาไว้ให้เต็มพื้นที่บ้านแน่นอน
10 สิ่งที่ควรทิ้งมากกว่าเก็บ
1. รีโมทเก่าๆ
เครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันส่วนใหญ่มาพร้อมกับรีโมท คอนโทรล ไม่ว่าจะเป็นทีวี ดีวีดี บลูเรย์ แอร์ หรือแม้แต่เครื่องดูดฝุ่นบางรุ่น แต่ถ้ามันเกิดชำรุดแตกหัก ก็ไม่ควรจะเก็บไว้ นอกเสียจากคุณต้องการเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ทางใจว่าครั้งหนึ่งเคยใช้ทีวีรุ่นนี้
2. เครื่องครัวที่มีไว้โชว์ มากกว่าใช้
สำหรับบางคน การมีเครื่องครัวครบชุด เป็นเรื่องของความรู้สึกทางใจ แต่ถามว่าใช้บ้างหรือไม่ อาจจะต้องใช้เวลานึกย้อนกลับไปนานหลายเดือน หรืออาจจะเป็นปีว่าใช้ครั้งสุดท้ายตอนไหน ถ้าคำตอบในใจคุณตอนนี้ยังคลุมเครือ แนะนำให้ยกให้คนที่น่าจะได้ใช้ประโยชน์มากกว่า เพราะเก็บไว้นอกจากฝุ่นจะจับแล้ว ของบางอย่าง ยิ่งถ้าเป็นเครื่องไฟฟ้า หากไม่ได้ใช้นานๆ ก็อาจจะเสียได้
3. หนังสือหรือแมกกาซีนที่มีอายุ 2 เดือนขึ้นไป
หากคุณเป็นนักอ่านตัวยง ปัญหาที่คุณต้องเผชิญคือจำนวนหนังสือ-แมกกาซีนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เว้นเสียแต่ว่าคุณสมัครสมาชิกเพื่ออ่านแบบออนไลน์ การเก็บแมกกาซีนที่ซื้อไว้ในบ้านทุกเล่มคงไม่ใช่ไอเดียที่ดีนัก ดังนั้น ควรคัดแยกเล่มที่คุณคิดว่าชอบที่สุด หรือน่าจะกลับมาอ่านซ้ำอีกครั้งไว้ในกล่องหรือในที่ที่มั่นใจว่าจะไม่มีฝุ่นหรือปลวกมารังควานได้ ส่วนที่เหลือ หากไม่ขายต่อร้านหนังสือมือสองหรือชั่งกิโลขาย ก็อาจจะบริจาคให้กับห้องสมุดชุมชนเพื่อเป็นการแชร์ความรู้ให้กับคนอื่นๆ ต่อไป
ภาพ via thepapertiger.com
4. กล่องใส่ของหรือขวดที่ไม่มีฝาปิด
หากเหตุผลที่คุณไม่ใช้กล่องหรือขวดนั้นเพราะว่าไม่มีฝาปิด ก็ไม่มีเหตุจูงใจใดๆ ที่คุณจะเก็บไว้ให้รกพื้นที่ นอกเสียจากคุณจะมีไอเดียในการนำไปเป็นพร็อพตกแต่งหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น รีไซเคิลซะ
5. เสื้อผ้าเก่าที่ใส่ไม่ได้แล้ว
เหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นกับคุณสุภาพสตรีขาช้อปทั้งหลายที่เพลิดเพลินกับการได้อยู่ในกระแสแห่งแฟชั่นเสมอๆ บางรายซื้อจนลืมใส่ก็มี หรือใส่ครั้งเดียวไม่ถูกใจก็ปลดระวางทิ้งไว้ในตู้ จนนานวันก็จะแน่นล้นออกมานอกตู้ก็มี คุณอาจจะคิดว่าเผื่อวันไหนอยากใส่ก็จะได้หยิบมาใส่เพราะแฟชั่นบางทีก็มีวนมาเป็นรอบๆ แต่เชื่อเหอะว่าความสุขของคุณคือการได้ซื้อของใหม่ๆ ดังนั้น เสื้อผ้าเซ็ทเก่าๆ ที่ไม่มีใช้ก็อาจจะไปโพสต์ขายเป็นเสื้อผ้ามือสองหรือจะบริจาคให้กับการกุศลบ้าง น่าจะดีกว่าเก็บไว้จนเหลือง จนเปื่อยแน่นอน
6. เครื่องสำอางเก่าเก็บ
อีกหนึ่งเคสสำหรับคุณผู้หญิงที่ไม่เคยหยุดสวย และมักจะหาเครื่องประทินผิว บำรุงความงามให้กับตัวเองอยู่เสมอ จนบางทีมีมากเกินความจำเป็น หันมาดูอีกทีพื้นที่บนโต๊ะเครื่องแป้งไม่มีที่ว่างเหลือแล้ว ครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอางส่วนใหญ่มีอายุของมัน ถ้าเลือกได้ คุณคงไม่อยากจะเอาครีมอายุ 2 ปีมาทาหน้าหรอก ตัดใจทิ้งซะ!
ภาพ via twcmsi.org
7. รองเท้าเก่า-รองเท้าที่กัด
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าปัญหาของหลายๆ บ้านคือเรื่องชั้นวางรองเท้าไม่เพียงพอกับจำนวนรองเท้าที่มี แต่เชื่อเถอะว่าคู่ที่คุณใส่เป็นประจำน่าจะมีแค่ 2-3 คู่ และในจำนวนนั้นอาจเป็นคู่ที่ใส่เพียงแค่ครั้งเดียวเพราะใส่แล้วถูกกัดหรือไม่สบายเท้า ยิ่งคู่ไหนที่ไม่ได้ใส่นานๆ หากเก็บไม่ดีก็อาจจะเสื่อมไปตามสภาพได้
8.โปสการ์ด/ การ์ดอวยพรต่างๆ
การ์ดอวยพรเป็นหนึ่งในตัวแทนความทรงจำดีๆ ที่มาในโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีความหมายกับคุณเป็นพิเศษ หากคุณต้องการที่จะเก็บความทรงจำดีๆ นี้ไว้ ให้หากล่องมาใส่ไว้ให้เป็นระเบียบ
ภาพ via photos-public-domain.com
9. ร่มที่พังแล้ว
คำถามคือ… เก็บไว้ทำไม? เพราะถึงอย่างไรคุณก็ไม่ได้คิดจะนำร่มที่ด้านหัก สปริงเสียไปซ่อมแทนการซื้อคันใหม่อยู่แล้ว ดังนั้น ทิ้งซะ!
10. ปฎิทินเก่าๆ
นอกเสียจากว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีจนคุณไม่อยากจะโยนทิ้งสิ่งที่เป็นตัวแทนของปีนั้นทิ้ง หลายคนเสียดายรูปสวยๆ ในปฏิทิน หากเป็นกรณีนี้ คงต้องดึงไอเดียเก๋ๆ ออกมาใช้และแปลงปฎิทินที่หมดอายุการใช้งานเหล่านั้นเป็นของแต่งบ้านชิคๆ ก็น่าสนใจดีนะ
ทีนี้ ลองหันไปมองรอบๆ ตัว แล้วดูสิว่าคุณกำลังนั่งอยู่ในบ้านหรือสุสานแห่งความทรงจำ หากมีลักษณะใกล้เคียงกับอันหลัง คงถึงเวลาที่คุณจะต้องลงมือจัดการอะไรสักอย่างแล้วล่ะ
ภาพหลัก via tumblr.com
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่