สำหรับใครที่พลาดโอกาสชมดอกซากุระไป หรือยังติดใจในความสวยงามอยู่ไม่หาย ไม่ต้องอดใจรอนานถึงปีหน้า เพราะญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งดอกไม้ ที่นี่จึงมีดอกไม้สวยๆ หมุนเวียนกันผลิบานให้ชมกันอยู่ตลอด อย่างช่วงตั้งแต่กลางเดือนเมษายนลากยาวไปถึงช่วงเดือนมิถุนายนนั้นก็เป็นเวลาของ “พิงค์มอส” ที่บานสะพรั่งละลานตา เปลี่ยนท้องทุ่งให้กลายเป็นพรมดอกไม้สีชมพูที่แสนตระการตา
พิงค์มอสจริงๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวของกับพืชพรรณจำพวกมอสหรอกนะ แต่ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของดอกไม้สีชมพูเล็กๆ น่ารักๆ เหล่านี้ก็คือ “ชิบะซากุระ” (Shibazakara) ดอกไม้ในตระกูล Polemoniaceae จำพวก Phlox มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือซึ่งเป็นรู้จักกันในชื่อพิงค์มอส ชิบะซากุระนั้นมีดอกขนาดเล็ก สีแดง ขาว และม่วง และเป็นพืชที่มีวงจรชีวิตนานกว่า 2 ปีขึ้นไป มักจะขึ้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม หนาแน่นจนเป็นดั่งผืนพรมสีชมพูที่แผ่กว้างราวกับจะต้อนรับผู้มาเยือน คนญี่ปุ่นนั้นชื่นชอบดอกไม้อยู่แล้ว ในหลายๆ ที่ซึ่งมีดอกชิบะซากุระบานจึงมักจะจัดเทศกาลชมดอกชิบะซากุระ ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเขาไฟฟูจิ หรือที่ฮอกไกโด
ภูเขาไฟฟูจิ
หากคุณอยากได้วิวสวยๆ ของภูเขาไฟฟูจิ ที่มีลานสีชมพูของดอกชิบะซากุระอยู่เบื้องหน้าแล้วล่ะก็ แนะนำให้ไปที่เทศกาลชมดอกชิบะซากุระที่ภูเขาไฟฟูจิ ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว เปรียบเทียบกับบ้านเราก็คงเหมือนเขตปริมณฑลเท่านั้นเอง แต่การันตีได้ว่าคุณจะพบกับดอกชิบะซากุระที่บานต้อนรับคุณอยู่ไม่น้อยกว่า 800,000 ดอกเชียวล่ะ งานนี้เริ่มจัดมาตั้งแต่ 18 เมษายนเรื่อยไปจนถึง 31 พฤษภาคม
ภาพ via yokosojapan.org
การเดินทางไปที่งานนั้นไม่ยากเพราะมีระบบขนส่งสาธารณะไปถึงเลย มีค่าเข้าชมงานบุคคลทั่วไปคนละ 520 เยน และ 210 เยนสำหรับเด็ก 3-12 ปี หรือหากคุณเลือกเช่ารถเพื่อขับไปที่งานก็ได้ แต่ต้องเผื่อเวลาให้ดีเพราะการจราจรอาจจะคับคั่ง บริเวณงานจะมีที่จอดรถเอาไว้ให้ ในการเดินทางก็ให้ใช้ GPS นำทางไปที่ฟูจิ โมโตซุโกะ รีสอร์ท (Fuji Motosuko Resort) หรือโมโตซุ ไฮแลนด์ (Motosu Highland) บนถนนหมายเลข 139 แต่ถ้าหากเอารถมาจอดก็จะมีค่าจอดรถเพิ่มขึ้นอีก 500 เยนสำหรับรถยนต์ทั่วไป และ 300 เยนสำหรับรถมอเตอร์ไซด์
ภาพ via taiken.co
บริเวณงานมีพื้นที่กว้างขวาง มีจุดสำหรับถ่ายภาพหลายแห่ง รวมไปถึงบริการถ่ายภาพ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านกาแฟ จุดแช่เท้าชมวิว และร้านขายของที่ระลึก ผู้เข้าชมจึงควรวางแผนมาก่อนล่วงหน้าคร่าวๆ จะได้ไม่พลาดไฮไลท์สำคัญไป
ก่อนกลับอย่าลืมแวะร้านขายของที่ระลึก เพราะที่นี่มีขนมหลายอย่างที่ทำขึ้นเฉพาะงานเทศกาลชิบะซากุระภูเขาไฟฟูจิเท่านั้น เช่น คุ้กกี้ฟูจิยาม่าที่นำของดีของเมืองฟูจิยาม่าทั้งสองอย่างมาเป็นส่วนผสม ทั้งแป้งสาลี และน้ำผึ้ง หรือจะเป็นโมจิใบซากุระที่หาชิมได้ยาก ความพิเศษอยู่ที่กลิ่นหอมๆ และรสชาติของใบซากุระ ซึ่งทั้งสองอย่างจัดเป็นสินค้าที่ขายดีมากๆ
ภาพ via shibazakura.jp
ฮอกไกโด
อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือเทศกาลฮิกาชิโมโกโตะ ชิบะซากุระ (Higashimokoto Shibazakura Festival) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 32 แล้วที่ฮิกาชิโมโกโตะ ปาร์ค (Higashimokoto Park) งานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 พฤษภาคม – 7 มิถุนายน บนพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ถึง 100,000 ตารางเมตรที่เนรมิตรให้ทั้งเนินเขากลายเป็นสีม่วงสลับชมพูขาวละลานตา ณ ช่วงเวลาที่ดอกชิบะซากุระเบ่งบานสูงสุด
ภาพโดย Troy Jack on flickr
การเดินทางมากที่งานนั้น สามารถใช้บริการรถไฟ JR มาที่เมืองอะบาชิริ (Abashiri) ทางตะวันออกของฮอกไกโด และมีสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอะบาชิริ จากสถานีรถไฟให้ต่อรถประจำทางสายอะบาชิริ โคะทสึ (Abashiri Kotsu) ไปลงที่ป้ายโอโซโระโช ฮิกาชิโมโกโตะ (Ozorocho Higashimokoto) จากนั้นต่อแท็กซี่เข้าไปที่งานได้
อัตราค่าเข้าชมงานนั้น ผู้ใหญ่ 500 เยนและ 250 เยนสำหรับเด็ก โดยไฮไลท์ของงานจะอยู่ที่ช่วงวันที่ 22-24 พฤษภาคม ซึ่งจะมีการประดับแสงไฟสวยงาม การแสดงพลุและเปิดเข้าชมยามค่ำคืน
ภาพ via bautistacarmela13.wordpress.com
ภายในงานยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ควรแวะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลเพราะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า Yamazumi ที่มีอายุมากกว่า 900 ปี หรือถ้าหิวจะแวะชิมไอศกรีมโคนพิงค์มอสแสนอร่อยก่อนกลับก็ได้นะ
ภาพหลัก via japan-magazine.jnto.go.jp
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
