ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจฯ แบงค์ไทยพาณิชย์แนะคนไทยเริ่มออมเร็วขึ้น หลังสยามเมืองยิ้มขึ้นแท่นประเทศที่มีสัดส่วนประชากรสูงอายุมากที่สุดในอาเซียน
จากบทวิเคราะห์ล่าสุดโดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่าประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรสูงอายุมากที่สุดในอาเซียนและจะเพิ่มเป็นกว่า 2 เท่าภายในไม่ถึง 20 ปีนับจากนี้ โดยปัจจุบัน ไทยมีประชากรวัย 65 ปีขึ้นไปราว 6.5 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของประชากรทั้งประเทศและจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ภายในปี 2578หรืออีก 20 ปีนับจากนี้ นอกจากนี้ ยังมีประชากรอายุระหว่าง 60-65 ปีอีกถึง 3.3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เกษียณอายุการทำ งานแล้ว
บทวิเคราะห์ยังได้ตั้งประเด็นที่น่ากังวลสำหรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุของไทยว่า ประเทศไทยกำลังแก่ก่อนรวย เนื่องจากระดับรายได้ของคนไทยยังต่ำมาก หากเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาหลายปีแล้ว จะพบว่าสัดส่วนผู้สูงอายุของไทยในปัจจุบันนั้นคล้ายกับโครงสร้างประชากรของญี่ปุ่นในปี 2526 แต่รายได้ต่อหัวของชาวญี่ปุ่นเมื่อ 30 ปีก่อนนั้นสูงกว่ารายได้ต่อหัวของไทยในปัจจุบันถึง 6.6 เท่า
สาเหตุที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างรวดเร็วเนื่องจากอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี 2513 โดยไทยยังเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศทั่วโลกที่มีอัตราการเกิดต่ำสุด โดยเฉลี่ยผู้หญิงไทยหนึ่งคนจะมีลูก 1.4 คนซึ่งต่ำกว่าระดับที่จะทำให้ประชากรมีขนาดคงที่
นอกจากนี้ เป็นที่คาดการณ์ว่าประชากรวัยทำงานของไทยจะเริ่มลดลงเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ในปี 2561 เนื่องจากอัตราการเกิดที่ต่ำทำให้ประชากรใหม่ไม่สามารถทดแทนแรงงานที่เกษียณอายุไปในแต่ละปีได้นั่นเอง
ทั้งนี้ SCB EIC แนะนำการรับมือกับวัยเกษียณของคนไทยว่าควรเริ่มวางแผนการออมเร็วขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากโครงสร้างประชากรและครัวเรือนที่เปลี่ยนไป ผู้สูงอายุในอนาคตที่ไม่ค่อยมีหรือไม่มีบุตร ทำให้ต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองมากขึ้นนั่นเอง
อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่ www.scbeic.com/th/detail/product/1375
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่