จากกรณีที่มีสาววัย 30 ท่านหนึ่งขับรถชนพนักงานการไฟฟ้าที่ไปตัดไฟบ้านจนกลายเป็นข่าวดังตามสื่อต่างๆ นั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าใครกันที่ทำเกินกว่าเหตุ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการถูกตัดน้ำ ตัดไฟ หรือถ้าเป็นยุคปัจจุบัน อาจจะมีเรื่องของการไม่จ่ายค่าส่วนกลางในโครงการคอนโดมิเนียมหรือบ้านจัดสรรที่อยู่ ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา และบางทีก็เป็นเหตุที่สุดวิสัยสำหรับบางคน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) และเป็นที่ปรึกษาของสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า “ในกรณีปกติ หากเจ้าของบ้านในโครงการบ้านจัดสรรหรืออาคารชุด ไม่จ่ายค่าไฟฟ้า การไฟฟ้าย่อมมีสิทธิที่จะตัดไฟได้ตามสัญญาที่ให้บริการของการไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่หากเป็นในกรณีที่ผู้อยู่อาศัย ไม่จ่ายค่าส่วนกลาง นิติบุคคลอาคารชุดจะตัดไฟไม่ได้ เพราะมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นของเจ้าของห้องชุดแต่ละราย ไม่สามารถไปตัดได้ อย่างไรก็ตามในกรณีน้ำประปา สามารถตัดได้ เพราะการประปาขายน้ำให้นิติบุคคคล และนิติบุคคลส่งต่อไปให้ห้องชุดแต่ละห้องอีกทีหนึ่ง”
“สำหรับกรณีที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลางนั้น แม้ว่านิติบุคคลจะทำการระงับคีย์การ์ดของเจ้าของห้องที่ไม่ยอมจ่ายค่าส่วนกลาง แต่ในความเป็นจริง ก็ไม่สามารถที่จะห้ามเจ้าของห้องชุดให้เข้าไปในอาคารได้อย่างสิ้นเชิง เพราะเจ้าของห้องอาจจะไปแลกบัตรดังเช่นแขกผู้มาเยี่ยมเยือนทั่วไป”
ทั้งนี้ ดร.โสภณตั้งข้อสังเกตว่าการไม่จ่ายค่าส่วนกลาง หรือมีผู้จ่ายเพียงส่วนน้อยนั้น ในความเป็นจริงจะส่งผลเสียต่อผู้อยู่อาศัยในโครงการโดยรวม เนื่องจากจะไม่มีเงินในการไปจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือบริการต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกภายในโครงการ เช่น การเก็บขยะ การบำรุงรักษาคลับเฮ้าส์ หรือแม้แต่การดูแลสภาพแวดล้อมภายในโครงการที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือห้องชุดมีราคาถูกลง เสื่อมค่าลง เป็นผลเสียต่อทุกฝ่ายโดยเฉพาะเจ้าของบ้านหรือห้องชุดภายในโครงการนั่นเอง
ทำอย่างไรเมื่อโดนตัดน้ำ?
จากข้อมูลโดยการประปานครหลวง (กปน.) เมื่อมีการใช้น้ำไปแต่มีการค้างชำระเป็นเวลาสองเดือน กปน.จะดำเนินการระงับการจ่ายน้ำให้ ซึ่งหากจะระงับด้วยการปิดท่อ บ้านอื่นที่ใช้ท่อร่วมกันจะเดือดร้อนไปด้วย จึงดำเนินการระงับการใช้น้ำที่มาตรวัดน้ำ ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินงาน ดังนี้
ขั้นตอนแรก ใช้การผูกลวดที่มาตรก่อนเป็นเวลา 15 วัน หากผู้ใช้น้ำมาชำระในระหว่างนี้ กปน. จะคิดค่าธรรมเนียมการระงับการจ่ายน้ำ 100 บาท ซึ่งก็คือค่าน้ำมันรถที่เจ้าหน้าที่ต้องออกไปนั่นเอง
ขั้นตอนที่สอง เมื่อพ้นกำหนด 15 วันไปแล้ว เจ้าหน้าที่จะไปถอดมาตรกลับมารักษาไว้ที่ กปน. เป็นเวลา 15 วัน หากผู้ใช้น้ำมาชำระเงินในช่วงดังกล่าว กปน. จะคิดค่าธรรมเนียม 10 % ของราคาติดตั้งประปาใหม่ ซึ่งหากเป็นมาตรครึ่งนิ้ว จะเป็นเงินประมาณ 500 บาท และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 35 บาท
ขั้นตอนที่สาม เมื่อพ้นกำหนด 15 วัน แต่ผู้ใช้น้ำยังไม่มาชำระเงิน กปน. จะไปตัดน้ำที่เฟอร์รูล ซึ่งก็คือจุดต่อเชื่อมกับท่อบริการ เพื่อป้องกันคนมาขโมยน้ำใช้เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่แน่นอน ในขั้นตอนนี้ หากผู้ใช้น้ำจะมาชำระเงิน กปน. จะคิดค่าธรรมเนียม 20% ของการติดตั้ง หรือราวพันกว่าบาทสำหรับมาตรครึ่งนิ้ว
ทำอย่างไรเมื่อโดนตัดไฟ?
เมื่อถูกงดจ่ายไฟฟ้า ผู้ใช้มีสิทธิ์ขอต่อกลับภายใน 1 ปีนับตั้งแต่ วันที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) งดจ่ายไฟฟ้า โดยจะแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาดังนี้
กรณีขอต่อกลับภายใน 6 เดือน ผู้ขอต่อกลับจะต้อง
– ชำระค่าต่อกลับ
– วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าใหม่ หากผู้ขอต่อกลับไม่เคยวางหลักประกัน การใช้ไฟฟ้ามาก่อน
– ชำระค่าตรวจสอบอุปกรณ์ภายใน กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง
– ชำระค่าอุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้า ตามค่าใช้จ่ายจริง ในกรณีที่ กฟน. ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง อุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้าอันเนื่องมาจากการใช้ไฟฟ้าของผู้ต่อกลับ
– กรณีที่ถูกตัดไฟเนื่องจากค้างชำระค่าไฟฟ้าหรือไม่ได้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้า กฟน. จะต่อกลับไฟฟ้าให้ได้ภายใน 1 วันทำการ
กรณีขอต่อกลับ 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี ผู้ขอต่อกลับจะต้องดำเนินการดังเช่นข้างต้น แต่จะมีเพิ่มเติมในส่วนของค่าตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในหรือไม่ก็ตาม
หากงดจ่ายไฟฟ้าเกินกว่า 1 ปี จะขอต่อกลับไม่ได้ หากต้องการใช้ไฟฟ้าอีกต้องยื่นเรื่องเหมือนขอใช้ไฟฟ้าใหม่
เพื่อหลีกเลี่ยงจากความยุ่งยากต่างๆ ทางที่ดี เราควรรักษาวินัยโดยการจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ หรือแม้แต่ค่าส่วนกลางตามกำหนดเวลาที่กำหนด
ภาพ via x104fm.com
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
