ตึกที่สูงที่สุดในจีนใกล้เป็นความจริงมากยิ่งขึ้น เมื่อการก่อสร้าง “เซียงไฮ้ ทาวเวอร์” (Shanghai Tower) ใกล้ที่จะแล้วเสร็จหลังจากใช้เวลาก่อสร้างมานานเกือบ 7 ปี และใช้งบการก่อสร้างไปแล้วเกือบ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10.46 ล้านล้านบาท)
ด้วยความสูง 125 ชั้น หรือราว 632 เมตรจากพื้นดิน ตึกเซียงไฮ้ ทาวเวอร์จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 ตามหลังตึกที่สูงที่สุดในโลกอย่างเบิร์จ คาลิฟาในดูไบที่มีความสูงจากพื้นดินอยู่ที่ 828 เมตร
โครงสร้างของตึกแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกชื่อดังจากซานฟรานซิสโกของอเมริกาอย่างเกนสเลอร์ กรุ๊ป ให้มีรูปร่างเป็นเกลียวบิด แต่เน้นคอนเซ็ปต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการจัดสรรพื้นที่สีเขียวด้วยสวนลอยฟ้าทุกๆ 15 ชั้น และกำลังจะได้รับการรับรอง LEED ระดับ Gold ในการเป็นอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
สภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (Council on Tall Buildings) มองว่าจำนวนประชากรของจีนที่เพิ่มขึ้นบวกกับการขาดแคลนที่ดินในประเทศทำให้จีนก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในประเทศที่มีตึกสูงๆ ในจำนวนต้นๆ ของโลก ปัจจุบันมีตึกที่ติดอยู่ใน 100 อันดับแรกของตึกที่สูงที่สุดในโลกในประเทศจีนถึง 35 แห่ง และคาดว่าภายในปี 2563 จีนจะมีตึกสูง (Super tall buildings) มากถึง 59 แห่งในจำนวนนั้น 13 ตึกจะเป็นตึกที่สูงที่สุด 20 อันดับแรกของโลกภายในปี 2563
นอกจากจีนแล้ว ประเทศในเอเชียที่จะมีตึกสูงที่ติด 20 อันดับแรกของโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า ได้แก่ ซิกเนเจอร์ ทาวเวอร์ จาการ์ต้า และลอตเต้ เวิลด์ ทาวเวอร์ ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ลอตเต้ เวิลด์ ทาวเวอร์ ในกรุงโซล
ภาพ via du.gensler.com
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่