AREA เผยทาวน์เฮ้าส์ราคา 3-5 ล้านย่านบางนา-ตราดปรับราคาขึ้นกว่า 10% ในรอบ 6 เดือนในขณะที่คอนโดฯ ต่ำกว่าล้านย่านรังสิต คลอง1-7 ราคาตก
รายงานการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ – ปริมณฑลโดยศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA พบว่าจากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมด 1,634 โครงการ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 พบว่าสินค้าที่อยู่อาศัยบางกลุ่มมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น แสดงว่าเป็นสินค้าที่ขายได้ดี ในขณะที่บางกลุ่มมีการปรับราคาลง แสดงว่าขายไม่ได้
ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ระหว่าง ธ.ค. 57 – มิ.ย. 58) พบว่าสินค้าประเภทตึกแถวราคา 10-20 ล้านบาทในทำเลยานนาวา-สีลม มีการปรับราคาขึ้นมากที่สุดคือจาก 12.8 ล้านบาท เป็น 14.586 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% แสดงให้เห็นว่าเป็นสินค้าที่อยู่ในความต้องการของผู้ซื้อ
ตามมาด้วยทาวน์เฮ้าส์ราคา 3-5 ล้านบาท ในทำเลบางนา-ตราด กม.1-10 ที่มีการปรับราคาขึ้นจาก 3.99 ล้านบาท เป็น 4.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.5% ในรอบ 6 เดือน ในขณะที่ทาวน์เฮ้าส์ ราคา 5-10 ล้านบาท ในทำเลรัชโยธิน แต่เดิมมีราคา 8.2 ล้านบาท ในเดือนธันวาคม 2557 เพิ่มเป็น 9.18 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน 2558 หรือเพิ่มขึ้น 12% แสดงว่าสินค้านี้มีความคึกคักเป็นที่ต้องการในพื้นที่นี้
ส่วนคอนโดมิเนียมราคา 2-3 ล้านบาท ในย่านเทพลีลา-มหาดไทยก็มีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน จาก 2.61 ล้านบาท เป็น 2.911 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.5% และคอนโดมิเนียมราคา 1-2 ล้านบาทในย่านศรีนครินทร์ (แมคโคร) มีการปรับราคาเพิ่มจาก 1.125 ล้านบาท เป็น 1.238 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.1% แสดงให้เห็นว่าสินค้านี้มีดีมานด์มากพอสมควร จึงมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจครั้งล่าสุดของ AREA ก็พบที่อยู่อาศัยที่มีราคาตกลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสินค้าดังกล่าวอาจไม่เป็นที่ต้องการของตลาดมากนัก ผู้ประกอบการที่คิดจะพัฒนาโครงการใหม่ๆ จึงควรระวัง ในขณะที่ฝั่งผู้ซื้อก็ต้องพึงระวังเช่นกันว่าเป็นสินค้าที่อาจไม่เหมาะสมกับทำเลนั้นๆ
สินค้าที่ราคาตกลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน ได้แก่ บ้านเดี่ยวราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปในย่านบางซื่อ ที่ราคามีการปรับตัวลงจาก 25.53 ล้านบาทเป็น 22.5 ล้านบาท หรือลดลง 11.9% ตามมาด้วยบ้านแฝดราคา 3-5 ล้านบาท ในย่านแจ้งวัฒนะ ที่ราคาปรับลงจาก 4.117 ล้านบาท เป็น 3.651 ล้านบาท ลดลง 11.3% ซึ่งในย่านนี้ สินค้าที่มีการพัฒนาส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดมิเนียมมากกว่าบ้านแฝด
ในขณะที่คอนโดมิเนียมราคา 1-2 ล้านบาทในทำเลอ้อมน้อย ราคาลดลงเช่นกัน คือจาก 1.329 ล้านบาท เหลือเพียง 1.185 ล้านบาท ลดลง 10.8% เนื่องจากย่านนี้มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และยังมีทาวน์เฮ้าส์ราคา 1 ล้านบาทอยู่ซึ่งเป็นคู่แข่งกับสินค้ากลุ่มนี้อยู่นั่นเอง
ส่วนคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทในย่านรังสิตคลอง 1-7 ราคาก็ตกลงเช่นกัน จาก 0.69 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2557 ที่ผ่านมาเป็น 0.616 ล้านบาทเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 หรือลงลง 10.7% เหตุที่คอนโดมิเนียมในย่านนี้ราคาไม่สูงมากนัก เนื่องจากคนในพื้นที่ยังนิยมอาศัยในบ้านจัดสรรมากกว่า จึงมีการลดราคาลงเพื่อจูงใจให้มีการตัดสินใจซื้อ
นอกจากนี้ คอนโดมิเนียมราคา 3-5 ล้านบาทในทำเลติวานนท์-กรุงเทพนนท์ ก็มีการปรับราคาลงเช่นกัน จากเดิม 4.804 ล้านบาท เหลือเพียง 4.3 ล้านบาท หรือลดลง 10.5% เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมในย่านนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาต่ำกว่านี้ ทำให้สินค้าที่มีราคาสูงโดดออกมาไม่เป็นที่ต้องการของตลาดมากนัก
ทั้งนี้ จากการสำรวจในครั้งนี้ AREA ยังพบอีกว่าในแต่ละเดือน โครงการหนึ่งๆ จะขายได้ประมาณ 4.4% ของสินค้าในโครงการนั้น ๆ ส่วนสินค้าที่เพิ่งเปิดใหม่ในปี 2558 นี้มีอัตราการขายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่ากับ 16% โครงการใดที่ขายได้ต่ำกว่านี้จึงเป็นการขายที่ช้า อาจประสบปัญหาได้ ส่วนโครงการใด ที่ขายได้เร็วกว่านี้แสดงว่าน่าจะประสบความสำเร็จด้วยดี
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่