บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ: โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในปัจจุบัน มีความคืบหน้าด้านงานก่อสร้างมาก และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ตามกำหนดในปี 2561 โดยมีระยะทางรวม 25 กิโลเมตร ประกอบด้วย 9 สถานี ได้แก่ สถานีสำโรง สถานีปู่เจ้าสมิงพราย สถานีเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีสมุทรปราการ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะสมุทรปราการ
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ในช่วงปี 2557-2558 เป็นปีที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าสายนี้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กของผู้ประกอบการรายย่อยหรือโครงการขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะ 3 สถานีแรกของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้ คือ สถานีสำโรง สถานีปู่เจ้าสมิงพราย และสถานีเอราวัณ ถือเป็น 3 สถานีที่ฮอตที่สุดของเส้นทางนี้
จุดเด่นสำคัญของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการที่อาจเรียกได้ว่าโดดเด่นที่สุดในกลุ่มรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างในปัจจุบัน นั่นคือ เป็นเส้นทางที่ต่อขยายมาจากรถไฟฟ้าเส้นทางปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้ว สามารถวิ่งตรงเข้าเมืองสู่ทำเล เอกมัย ทองหล่อ สยามฯ หรือยาวไปถึงหมอชิตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้า จึงทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนได้ว่า พื้นที่รอบสถานีใหม่ๆ เหล่านี้จะมีศักยภาพในอนาคตแน่นอน
หากวิเคราะห์ศักยภาพของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการในอนาคต สามารถใช้ภาพของ “อ่อนนุช-แบริ่ง” ในอดีตได้ โดยในช่วงที่ส่วนต่อขยาย “อ่อนนุช-แบริ่ง” ยังไม่ได้เริ่อก่อสร้าง สถานีอ่อนนุชถือเป็นปลายทางของเส้นทางที่ราคาคอนโดมิเนียมไม่แพงมาก ประมาณ 7-8 หมื่นบาท/ ตร.ม.
จนเมื่อเมืองเริ่มขยายตัว และมีส่วนต่อขยาย “อ่อนนุช-แบริ่ง” คอนโดมิเนียมรอบสถานีอ่อนนุช เริ่มเปิดขายในราคาที่สูงขึ้น แตะๆ แสนบาท/ ตร.ม. ส่วนสถานีถัดจากนั้น ตั้งแต่บางจากยาวจนถึงแบริ่ง กลายเป็นทำเลคอนโดมิเนียมราคา 7-8 หมื่นบาท/ตร.ม.แทนที่อ่อนนุช จนปัจจุบันสถานีส่วนต่อขยายบางจาก-แบริ่งเปิดให้บริการ ราคาที่ดินขยับขึ้น ส่งผลให้คอนโดมิเนียมรอบสถานีเหล่านี้ ขยับขึ้นไปแตะหลักแสนบาท/ตร.ม. แล้วเช่นกัน
ขณะที่คอนโดมิเนียมราคา 7-8 หมื่นบาท/ ตร.ม. ในปัจจุบันก็จะเริ่มขยับไปกระจุกตัวอยู่บริเวณ 3 สถานีแรกของส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งแน่นอนว่า หากรถไฟฟ้าเส้นทางนี้เปิดให้บริการ ก็มีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นคล้ายกับภาพของอ่อนนุช-แบริ่ง เพราะราคาที่ดินใจกลางเมืองขยับขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลให้ราคาขายคอนโดมิเนียมขยับไปตามกัน
จากการสำรวจราคาขายคอนโดมิเนียมใกล้ 3 สถานีแรกของรถไฟฟ้าเส้นทางนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากราคาขายเริ่มต้น 6 หมื่นบาท/ ตร.ม. ปัจจุบันขยับขึ้นมาเสนอขายสูงสุด 7.5-8 หมื่นบาท/ ตร.ม. โดยราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-5.5 หมื่นบาท/ ตร.ม. ส่วนคอนโดมิเนียมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ห้องชุดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพราะกำลังซื้อในย่านนี้ยังไม่สูงมาก และความต้องการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มคนท้องถิ่นที่อยู่อาศัยในย่านนี้ หรือทำงานในย่านนี้เป็นหลัก
แต่ในอนาคตมีแนวโน้มว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากมีบ้านหลังแรกและต้องทำงานในเมืองจะหันมาเลือกอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมใกล้กับ 3 สถานีแรกของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้มากขึ้น เพราะไม่อาจซื้อหรือเช่าคอนโดมิเนียมในเมืองอยู่อาศัยได้ เพราะราคาขายหรืออัตราค่าเช่าค่อนข้างสูง ขณะที่ราคาคอนโดมิเนียมและอัตราค่าเช่าย่านนี้ยังจับต้องได้ และเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกไม่แพ้กัน ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน จึงเป็นอีกหนึ่งทำเลอนาคตที่น่าสนใจ
ด้านความต้องการที่อยู่อาศัย ย่านนี้อยู่ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ จากการเป็นศูนย์กลางการผลิตขนาดใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ เช่น กลุ่มอีซูซุ กลุ่มโตโยต้า กลุ่มฮอนด้า กลุ่มฮีโน่ กลุ่มทาทา รวมถึงยังมีโรงงานผลิตฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ของซีเกทด้วย ดังนั้น จึงมีความต้องการทั้งตลาดซื้อและตลาดเช่าที่สูงมาก อัตราค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 บาท/ เดือน
ปัจจัยดังกล่าวทำให้คอนโดมิเนียมใกล้ 3 สถานีแรกของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจทั้งการซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุน จากราคาที่ยังจับต้องได้ในปัจจุบัน เพราะอนาคตมีโอกาสที่ราคาคอนโดมิเนียมโซนนี้จะขยับขึ้นจากหลายปัจจัยบวกดังที่กล่าว และราคาที่ดินบริเวณนี้ที่ปรับขึ้น 10-30% ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และคาดว่ายิ่งงานก่อสร้างรถไฟฟ้าคืบหน้ามากเท่าไร ราคาที่ดินบริเวณนี้ยิ่งปรับขึ้นมากเท่านั้น
สำหรับโครงการที่น่าจับตาในโซนนี้ ได้แก่ โครงการไอดีโอ สุขุมวิท 115 (Ideo Sukhumvit 115) ที่พัฒนาโดยบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบบไฮไรส์แห่งแรกๆ ที่มาบุกเบิกในทำเลนี้ โดยโครงการตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวสถานีปู่เจ้าสมิงพราย
นอกจากจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวกแล้ว จากโครงการยังสามารถเดินทางด้วยรถยนต์เชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ถนนเทพารักษ์ ถนนศรีนครินทร์ ปากน้ำ บางปู และยังใกล้วงแหวนพระราม 3 – ดาวคะนอง และวงแหวนอุตสากรรม ซึ่งจะข้ามสะพานภูมิพล หรือสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ที่จะทำให้เดินทางเข้าเมือง หรือออกนอกเมืองได้สะดวกมาก
ไอดีโอ สุขุมวิท 115 ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการกว่า 4 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมความสูง 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 988 ยูนิต รูปแบบห้องชุด มีด้วยกัน 3 แบบ คือ สตูดิโอ (พื้นที่ใช้สอย 27.50 ตร.ม. และ 29.50 ตร.ม.) 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (พื้นที่ใช้สอย 34 ตร.ม.) และ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (พื้นที่ใช้สอย 62 ตร.ม.) ตกแต่งแบบ Fully-furnished พร้อมด้วยระบบความปลอดภัย Access Key Card, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเฉลี่ยประมาณ 70,000 บาท/ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท/ยูนิต ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2561
โครงการดังกล่าวจะเปิดตัวและเปิดให้ผู้สนใจจองครั้งแรกในงาน “ANANDA URBAN PULSE” ระหว่างวันที่ 12-16 สิงหาคม 2558 นี้ ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยจะมีการจำลองบรรยากาศห้องชุดในโครงการ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่จองภายในงาน ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.ananda.co.th
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่