เอเบิ้ล แอสเสท กรุ๊ปหวนสังเวียนสู่ตลาดคอนโดฯ ในเมือง เดินหน้าเปิดโครงการโลว์ไรส์ “เดอะ รีมาร์คเอเบิ้ล ศูนย์วิจัย 2” เจาะกลุ่มคนหาบ้านหลังที่สองในเมือง เคาะราคาเริ่มต้นที่ 3.3 ล้านบาท
นายกษิดิศ มโนภินิเวศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเบิ้ล แอสเสท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลเมืองท่องเที่ยวอย่างโครงการบ้านวิววิมาน หัวหิน และ เซนทริโอ ภูเก็ต มาแล้ว ล่าสุด บริษัทเลือกเข้ามาเจาะตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ เพื่อจับกลุ่มผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในทำเลเมืองโดยคว้าที่ดินในซอยศูนย์วิจัย 2 มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ในชื่อ “เดอะ รีมาร์คเอเบิ้ล ศูนย์วิจัย 2” (The Remarkable Soonvijai 2) มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
โครงการ เดอะ รีมาร์คเอเบิ้ล ศูนย์วิจัย 2 ประกอบด้วยอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนพื้นที่ 0-3-24 ไร่ มีห้องชุดจำนวนทั้งสิ้น 87 ยูนิต แบ่งเป็นแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 30.31 -50 ตารางเมตร, แบบ 2 ห้องนอนพื้นที่ 54.75-55.21 ตารางเมตร และเพนท์เฮ้าส์พื้นที่ 83.16 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นที่ 3.3 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณถนนเพชรบุรี-รัชดาภิเษก และย่านสุขุมวิท-พระโขนง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 นี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนสินค้าและราคา โดยโครงการย่านสุขุมวิท-พระโขนง มีราคาเฉลี่ยสูงถึง 226,000 บาทต่อตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ผ่านมาถึง 50% ในขณะที่คอนโดมิเนียมบริเวณถนนเพชรบุรี-รัชดาภิเษกมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 111,000 บาทต่อตารางเมตร ในปี 2558 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาราว 28% ส่วนยอดขายโครงการเปิดใหม่ในทำเลดังกล่าวยังมีอัตราการขายที่ดีไม่ปรับตัวลดลง
“ผมมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะไม่แตกต่างจากช่วงต้นปีมากนัก เพราะภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมยังคงทรงตัว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปรับแผนการเปิดขายโครงการใหม่โดยลดจำนวนโครงการลง และเลือกเปิดขายในบางทำเลเท่านั้น ซึ่งเราเองจากจากที่ได้คลุกคลีอยู่กับกลุ่มลูกค้า ทำให้สัมผัสได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ทำเลของเราน่าจะตอบโจทย์กับลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังแรกหรือหลังที่สองก็ตามที่อยู่ในซอยไม่ไกลจากถนนใหญ่ เงียบสงบ ไม่แออัด สะดวก และอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอยู่คอนโดฯ แต่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านใจกลางเมือง” นายกษิดิศ กล่าว
สำหรับนโยบายการลงทุนของบริษัท นายกษิดิศกล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีจากนี้จะเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง ควบคู่ไปกับการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทำเลทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในหัวเมืองสำคัญของประเทศ ประมาณ 2-3 โครงการต่อปี มีมูลค่าโครงการประมาณ 500-1,500 ล้านบาทขึ้นไป
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่