วี.เอ็ม.พี.ซี. เตรียมเดินหน้าผุดโครงการแลนด์มาร์คใหม่ในทำเลไข่แดงศรีราชา เจาะกำลังซื้อลูกค้าจากนิคมฯ เชื่อดีมานด์ที่อยู่อาศัยยังแรงทั้งจากผู้ซื้อคนไทยและต่างชาติ สวนทางตลาดพัทยาที่อยู่ในช่วงชะลอตัว
นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด เจ้าของโครงการบ้านระดับพรีเมียม “แอสเทรา” (Astera) เปิดเผยว่าจากการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกของไทย พบว่าทำเลที่น่าจับตา นอกจากพัทยา บางแสน บริเวณท่าเรือแหลมฉบังแล้ว ศรีราชานับเป็นอีกโซนที่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการท้องถิ่นและจากกรุงเทพฯ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นคนไทยและญี่ปุ่นเป็นหลัก
“ชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการลงทุนและการขนส่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือน้ำลึก ประกอบกับรัฐบาลให้การสนับสนุนด้านการส่งออก และการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งยังได้ทุ่มงบประมาณในการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคและการขนส่งเพื่อการเดินทางสู่จุดสำคัญต่างๆ อาทิ การขยายถนนสาย 344 เป็น 10-12 เลน ที่กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลมฉบังได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น มาบตาพุดยังมีการขยายพื้นที่อีก 20,000-30,000 ไร่สู่อุตสาหกรรมสีเขียวที่มีมูลค่าสูงขึ้นจากเดิมจะเน้นแค่การลงทุนในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับปิโตรเคมี” นายปริญญากล่าว
สำหรับทำเลศรีราชา นายปริญญามองว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากเป็นโซนที่มีโรงงานทั้งที่เป็นของคนไทย และนักลงทุนชาวต่างชาติมาลงทุนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดคลัสเตอร์การอยู่อาศัยใหม่ๆ ขึ้น
ในขณะที่ตลาดการซื้อ-ขายที่ดินก็มีความคึกคักค่อนข้างมาก ส่งผลให้ราคาที่ดินมีการขยับเพิ่มขึ้นราว 30-40%
“การบูมของการพัฒนาที่อยู่อาศัยจากผู้ประกอบการในพื้นที่และผู้ประกอบการจากส่วนกลาง สะท้อนภาพชัดว่าตลาดมีดีมานด์ แต่ในขณะเดียวกันการแข่งขันก็สูงด้วย สำหรับทำเลศรีราชานั้น โครงการที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้นส่วนใหญ่เพื่อรองรับคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรม จะต่างจากพัทยา ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวแต่ปัจจุบันตลาดค่อนข้างจะชะลอตัว เนื่องจากตลาดใหญ่จะเป็นต่างชาติ” นายปริญญากล่าวเสริม
ทั้งนี้ จากศักยภาพของทำเลที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้บริษัทมีความเชื่อมั่นและมีแผนที่จะพัฒนาโครงการในพื้นที่ดังกล่าว โดยได้ซื้อที่ดินเนื้อที่ 12 ไร่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีราชา และอยู่ห่างจากโรงพยาบาลพญาไท 300 เมตรมาเพื่อก่อสร้างเป็นอาคารความสูง 43 ชั้น ที่คาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของย่านศรีราชา ซึ่งโครงการดังกล่าวผ่านการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และได้เริ่มการก่อสร้างแล้วในปัจจุบัน โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากทางธนาคารกรุงเทพ โดยมี บริษัท ไทยบาวเออร์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานเข็มฐานรากและ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 3 ปีข้างหน้า ในส่วนของชื่อโครงการนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด
“โครงการดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบริษัท โดยหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือการเน้นพื้นที่สีเขียวที่มีมากกว่า 1 ไร่ โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มคนไทย 30% และอีก 70% จะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ โดยในอนาคตอันใกล้นี้โครงการดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะสามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโซนภาคตะวันออกซึ่งถือเป็นทำเลแห่งการลงทุน และการจ้างงาน และเป็นทำเลที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยต่อไป” นายปริญญา กล่าวสรุป
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่