ในช่วงภาวะเศรษฐกิจขาลงทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลุ่มคนบางคนก็ยังคงร้วยรวยกันอย่างไม่เกรงใจมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา เศรษฐีอาเซียนแต่ละคนต่างมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศของตนเนื่องด้วยมูลค่าบริษัทหรือกลุ่มบริษัทที่ตนถือครองอยู่นั้นมหาศาลเหลือเกิน วันนี้ DDproperty มีข้อมูลทางตัวเลขที่น่าสนใจของกลุ่มคนเหล่านี้มาแชร์ให้คุณได้รู้กัน
73.5
คือตัวเลขอายุเฉลี่ยของเศรษฐีชาวมาเลเซียซึ่งจัดได้ว่าเป็นกลุ่มผู้มั่งคั่งที่มีอายุมากที่สุดในอาเซียน สำหรับอายุเฉลี่ยของเศรษฐีอินโดฯ อยู่ที่ 66 ปี ไทยอาจจะหนุ่มลงมาหน่อยโดยอยู่ที่ 65 ปี ส่วนสิงคโปร์อยู่ที่ 63.2 ปี ข้ามไปฝั่งอเมริกาจะอยู่ที่ 66 ปี สำหรับเศรษฐีพันล้านที่อายุต่ำกว่า 40 ปี อยู่ทางฝั่งลุงแซมมากถึง 11 คน
1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
คือมูลค่าเงินสดที่อภิมหาเศรษฐีอินโด Chairul Tanjung ทำการซื้อบริษัท Visi Media Asia บริษัทสื่อโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ Tanjung นั้นยังเป็นเจ้าของกลุ่ม CT Corp ซึ่งเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์อีกสองสถานีด้วยกัน ส่วนเศรษฐีพันล้านอีกคน Hary Tanoesoedibjo ซึ่งเคยยื่นซื้อ Visi ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทสื่อ MNCGroup
130
คืออายุของกลุ่มบริษัท Fraser and Neave (F&N) ซึ่งมีเจ้าของคือเจ้าสัวเจริญ (เจริญ สิริวัฒนภักดี) เจ้าของเบียร์ช้างและอีกหลายธุรกิจใหญ่ ที่ทำให้มหาเศรษฐีรายนี้ครองความมั่งคั่ง และมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหาร, เบียร์, อสังหาริมทรัพย์ และสิ่งพิมพ์
1981
เป็นปีแรกที่ Abdul Taib Mahmud ขึ้นแท่นดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐมนตรีของมาเลเซียด้วยทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (7 แสนล้านบาท) แต่ตอนนี้ได้หลุดในโผรายชื่อจากการจัดอันดับของ Forbes เป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากคดีอื้อฉาวสัมปทานป่าไม้ที่ถูกเปิดโปงโดยวีดีโอลับจากองค์กร Global Witness
600 ล้านเหรียญสหรัฐ
คือจำนวนเงินที่บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของฟิลิปปินส์ Henry Sy ลงทุนในธุรกิจคาสิโน ณ กรุงมานิลา ถือเป็นธุรกิจที่สร้างความมั่งคั่งและความนิยมในหมู่คนรวย ซึ่งบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดเป็นอันดับสามของฟิลิปปินส์ Enrique Razon Jr. ก็เลือกลงทุนในธุรกิจคาสิโนเช่นเดียวกันโดยมีชื่อโปรเจคว่า Solaire ซึ่งเป็นธุรกิจคาสิโน – รีสอร์ท แห่งแรกของประเทศ
2012
นับเป็นปีที่อินโดนิเซียมีจำนวนเศรษฐีพันล้านแซงหน้าประเทศลูกพี่แห่งเอเชียอย่างญี่ปุ่นด้วยจำนวน 32 ต่อ 28 คน
สำหรับใครที่วาดฝันว่าอยากเป็นหนึ่งในบุคคลเหล่านี้บ้างคงต้องเร่งรีบออมแล้วคิดวิเคราะห์ให้ดีว่าจะดำเนินธุรกิจอะไรสวนทางกับเศรษฐกิจเอเชียที่อยู่ในช่วงขาลง การหมั่นศึกษาและความพยายามจะนำพาไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้แน่นอน
บทความเกี่ยวข้อง:
เปิดโผสุดยอดของสะสมเศรษฐีเอเชีย
เรื่องข้างต้นเรียบเรียงโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com