8ผู้โชคดีที่เลือกได้จะไม่ขอ“ถูกหวย”

chaiyasit bunnag18 ม.ค. 2559

การถูกล็อตเตอรี่แจ็กพอตครั้งใหญ่สักครั้งในชีวิตถือเป็นเรื่องที่ยาก แต่เชื่อหรือไม่ว่าถ้าเกิดบังเอิญโชคดีเป็นผู้ที่คว้าโอกาสทองนั้นมาได้ การที่จะบริหารให้มันเจริญงอกงามขยายดอกผลเพื่อให้มีไว้ใช้ในยามแก่ชราและถ่ายทอดไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งยิ่งกว่า! วันนี้ DDproperty มี 8 กรณีตัวอย่างที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจ สำหรับเหล่าคนดวงขึ้นถึงช่วงพีคและไม่อยากกลายสภาพเป็น “สามล้อถูกหวย” ในระยะเวลาอันสั้น

1. Lara และ Roger Griffiths

LotteryLara Griffth

Lara Griffth

สองสามีภรรยาคู่นี้ถูกรางวัลมูลค่า 2.76 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 99 ล้านบาท) ซึ่งก่อนหน้าที่จะถูกหวยครั้งใหญ่นี้พวกเขาแทบจะไม่เคยมีปากเสียงให้ร้าวฉานกัน โดยหลังจากถูกรางวัลพวกเขาได้เลือกซื้อบ้านในฝันพร้อมกับรถปอร์เช่สุดหรูแทนที่จะเลือกลงทุนก่อน หลังจากนั้นน่ะเหรอ?  สามีตัวแสบได้ขับปอร์เช่หนีแฟนสาวไปมีกิ๊กใหม่ หลังจากถูกจับได้ชีวิตแต่งงาน 14 ปีก็ได้จบลงพร้อมความโทสะที่เข้าควบคุมให้ฝั่งภรรยาจุดไฟเผาบ้านตัวเองจนเงินทุกบาททุกสตางค์หายไปพร้อมกับเปลวเพลิง

2. Bud Post 

Lottery2

พ่อหนุ่ม William Bud Post รายนี้ถูกรางวัลมูลค่า 16.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 583 ล้านบาท) แต่ด้วยความเขลาของตนจึงได้เนรมิตหนี้กว่า 30 ล้านบาทขึ้นมาภายในเวลาไม่ถึงปี โดยนายโพสต์ได้บอกว่า “เลือกได้ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย เหมือนฝันร้ายชัดๆ ในช่วงชีวิตหลังถูกหวย” โดยหลังจากรวยอย่างมึนงง นายนี่ก็ถูกอดีตแฟนสาวฟ้องเรื่องสิทธิในการรับเงินแบ่งจากการถูกรางวัลอีกทั้งพี่ชายแท้ๆ สายเลือดเดียวกันยังวางแผนฆ่าตัวเขาเพื่อหวังจะฮุบเงินสมบัติจากการถูกหวย เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เขายังเอาเงินไปลงทุนกับธุรกิจที่บ้านแล้วก็เจ๊งไม่เป็นท่าพร้อมหนี้ที่ถูกก่อมากมาย อีกทั้งยังต้องใช้ชีวิตในคุกหลังจากยิงปืนเข้าที่แสกหน้าเจ้าหน้าที่ทวงหนี้  ส่วนตอนนี้? เขายังคงหาเช้ากินค่ำด้วยเงินเดือนหมื่นกว่าบาทพร้อมฝากปากท้องไว้กับคูปองอาหารฟรี

3. Sharon Tirabassi

LotterySharon Tirabassi

Sharon Tirabassi

แม่หม้ายลูกติดคนนี้เคยดำรงชีพด้วยการอาศัยเงินสวัสดิการรัฐ แต่เหมือนฟ้าสั่งมาให้เธอถูกรางวัลมูลค่า 10.5 ล้านเหรียญแคนาดา (ประมาณ 265 ล้านบาท) แล้วรู้ไหมว่าเธอเอาเงินไปทำอะไรหลังจากถูกหวย? ง่ายๆ เลยซื้อบ้าน, เสื้อผ้า, รถ พร้อมทั้งออกเที่ยว แถมยังเลือกพักแต่โรงแรมระดับไฮโซ ยังไม่พอโชว์ความรวยด้วยการแจกบรรดาญาติพร้อมปล่อยให้เพื่อนๆ ยืม ไม่กี่ปีถัดมาเงินก็หมดลง เธอจึงต้องกลับมาโหนรถบัสอีกครั้ง หาเช้ากินค่ำด้วยงานพาร์ทไทม์และอาศัยอยู่ในบ้านเช่า แต่โชคยังดีที่เธอเลือกนำเงินส่วนหนึ่งเข้ากองทุนเพื่ออนาคตสำหรับลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอที่จะสามารถดึงเงินก้อนนั้นออกมาใช้ยามที่พวกเขาอายุ 26

4. Gerald Muswagon

LotteryGerald Muswagon

นายเจอรัลด์เช่นเดียวกันที่ถูกรางวัลกว่า 200 ล้านบาท แต่ด้วยพื้นฐานเป็นคนที่ชอบปาร์ตี้เงินจึงหมดไปกับนิสัยพื้นฐานของตนที่กินเที่ยวดื่มตลอด 7 ปี ไม่ต้องสืบเงินหมดแน่นอน สุดท้ายจบชีวิตด้วยการแขวนคอในโรงรถบ้านพ่อแม่ เป็นการหลับหูหลับตาเที่ยวที่สลดจริงๆ

5. Micheal Carrel

LotteryMicheal Carrol

Micheal Carrel

ดูเหมือนชีวิตหนุ่มไมเคิลคนนี้จะรุ่งพุ่งถึงขีดสุดยามเมื่อถูกแจ็คพอตกว่า 500 ล้านบาท แต่ด้วยชีวิตติดแอลกอฮอล์, โคเคนและปาร์ตี้สุดเหวี่ยงทุกวี่ทุกวัน เงิน 500 ล้านนั้นก็ถูกผลาญ ทำให้เขากลับสู่ชีวิตจนตรอกอีกครั้ง ล่าสุดที่เรารู้เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้นี้คือเขาหวังว่าจะได้กลับไปมีอาชีพซ่อมรถอีกครั้ง

6. Wille Hurt

LotteryWillie Hurt

วิลลี่โชคดีถูกรางวัลล็อตเตอรี่แจ็กพอตมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท แต่หลังจากนั้นสองปีเขากับภรรยาก็เลิกกัน อีกทั้งตัวเขาเองยังสูญเสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร เนื่องจากคดีอาชญากรรมพยายามฆ่าลูกตัวเองและอาการติดสารเสพติดขั้นรุนแรง ซึ่งอาการติดสารเสพติดนี้ทำให้เขาต้องสิ้นเนื้อประดาตัวภายในไม่กี่ปี

7. Luke Pittard

LotteryLuke Pittard

หนุ่มชาวเวลส์คนนี้โชคชะตาฟ้าลิขิตให้ได้รับเงินแจ็กพอตมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท แต่ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มจากยุโรปคนนี้จะถนัดงานผลาญ โดยเงินจำนวนนี้หมดไปกับการโลดแล่นเที่ยวหมู่เกาะคานารี่สุดหรู ในสเปน, งานวิวาห์และบ้าน
ปีต่อมาก็กลับมาถังแตกโดยเขาต้องกลับไปปิ้งเบอร์เกอร์ขาย (คำเสียดสีในสหรัฐที่ดูถูกคนที่ทำงานพวกนี้ว่าไร้ความสามารถ) แต่เขาก็ยังคงดูมีความสุขดีพร้อมกินดอกเบี้ยเล็กน้อยจากเงินฝาก

8. Callie Rogers

LotteryTeen Mom

คุณแม่วัยละอ่อนผู้นี้เฮงถูกรางวัลแจ็กพอตมูลค่าเฉียดร้อยล้านบาทแต่ตอนนั้นเธอเพิ่งอายุเพียง 16 ปีไร้ซึ่งความรู้ที่จะจัดการบริหารทรัพย์สินของตน คุณแม่วัยรุ่นผู้นี้ยังละลายเงินที่มีไม่เว้นแต่ละวันไปกับปาร์ตี้และการซื้อของแจกเพื่อน ซึ่งหลังจากเงินหมด เธอก็ต้องกลับไปหาเลี้ยงตัวเองอีกครั้งกับอาชีพพนักงานทำความสะอาดและถูกฟ้องเป็นบุคคลล้มละลายเนื่องด้วยหนี้บัตรเครดิตบานเบอะที่ได้ก่อไว้

จะเห็นได้ว่าบุคคลเหล่านี้ขาดความรู้ในเรื่องของการบริหารจัดการเงินและทรัพย์สินของตัวเอง อีกทั้งยังเลือกใช้เงินปรนเปรอความสุขระยะสั้นของตนแทนที่จะเป็นการลงทุนระยะยาวอย่างการศึกษาหรือกองทุนสุดท้ายก็ต้องกลับคืนสู่สามัญเพราะกิเลสของตนที่ห้ามไม่อยู่ สุดท้ายจึงอยากฝากข้อความของ Matthew ไว้ว่า “Whoever has will be given more, and they will have an abundance. Whoever does not have, even what they have will be taken from them.” –ผู้ที่มีความรู้และมั่งมีก็ยิ่งจะมีเพิ่มทวีคูณ แต่คนที่เขลาถึงแม้มีก็ยังจะถูกพรากเอาไป—มนุษย์เงินเดือนอย่างเราล่ะ จะเลือกออมเพื่ออนาคตหรือขอซื้อความสุขชั่วครู่ กิน, ดื่ม, เที่ยวก่อนดี หลังจากได้อ่านกรณีตัวอย่างจากกลุ่มคนในข้างต้นไป?

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com 

เขียนความเห็น