ประเทศไทยยังเนื้อหอมในกลุ่มนักลงทุน-ผู้ประกอบการโรงแรมต่างชาติ

กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมเผยปี 58 จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเมืองไทยสูงสุดเป็นสถิติใหม่ในรอบ 20 ปี จากการเปิดเผยของ STR Global ในงาน Thailand Tourism Forum 2016 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเน็นทัล กรุงเทพฯ
ประเทศไทยปิดฉากปี 2558 ด้วยอัตรการเข้าพัก 73.6% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 13.6% โดยตัวเลขคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวเมืองไทยตลอดปีมะแมอยู่ที่ 30 ล้านคน โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดจีนเป็นตัวขับเคลื่อน ทั้งนี้ เดือนธันวาคมที่ผ่านมานับเป็นเดือนที่มียอดการเข้าพักสูงสุดถึง 77.4% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2538

สำหรับงาน Thailand Tourism Forum ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 5 ผ่านการร่วมมือระหว่างซีไนน์ โฮเท็ลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks), หอการค้าไทย-อเมริกัน และอินเตอร์คอนติเน็นตัล โฮเท็ล กรุ๊ป เพื่อให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยในปีนี้มีผู้ร่วมงานกว่า 500 คน
เชนโรงแรมระดับโลกอย่าง อินเตอร์คอนติเน็นทัล กรุ๊ป ประกาศแผนขยายกิจการโรงแรมภายใต้แบรนด์ “โฮเต็ล อินดิโก้” (Hotel Indigo) ในจังหวัดภูเก็ต หลังจากที่เปิดตัวในกรุงเทพฯ เมื่อปลายปีที่แล้ว รวมถึงการขยายตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
นายคลาเรนซ์ แทน รองประธานอาวุโส ฝ่ายพัฒนาเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โรงแรมอินเตอร์คอน ติเนนทัลเปิดเผยว่า การขยายแบรนด์โฮเท็ล อินดิโก้ของบริษัทในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความเร็จในสาขากรุงเทพฯ โดยโรงแรมขนาด 180 ห้องแห่งนี้ ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกับบริษัท เก็บทรัพย์ กรุ๊ป จำกัด จะเปิดให้บริการในปี 2561 บริเวณชายหาดป่าตอง
“นอกจากนั้น แบรนด์โฮเท็ล อินดิโก้ ยังจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปในภูมิภาคอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ โดยจะเปิด โฮเท็ลอินดิโก้ กาตง ในสิงคโปร์ (Hotel Indigo Katong) และโฮเท็ล อินดิโก้ บาหลี เซมินยัค (Hotel Indigo Bali Seminyak) โดยคงความโดดเด่น ทันสมัย กับคอนเซ็ปต์เพื่อนบ้านในสไตล์ของอินดิโก้ทั่วโลก” นายแทนกล่าว
ด้านนายเคนเน็ท กอว ประธานและกรรมการบริการของ กอว แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกและในไทย อาทิ ดุสิตธานี กรุงเทพฯ, พูลแมน จี โฮเท็ลส์ ในกรุงเทพฯ และพัทยา และปาร์ค ไฮแอท ภูเก็ต เปิดเผยเกี่ยวกับการลงทุนธุรกิจในประเทศไทยว่า ไทยยังคงเป็นหนึ่งในความสนใจของบริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์และความสวยงามของทำเล การเติบโตของตลาดการท่องเที่ยว เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากนั้น ค่าใช้จ่ายในการลงทุนค่อนข้างต่ำทำให้เป็นโอกาสในการลงทุนอย่างดี
“ในปีนี้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย โดยเรายังคงมีแผนการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงแม้เมืองไทยจะมีศักยภาพสูงในการเติบโตด้านการท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในด้านการเมืองของประเทศไทยที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นในประเทศลดลง” นายกอวกล่าว

Kenneth Gaw

ตำแหน่งที่ตั้งที่เป็นจุดเด่นของประเทศไทยในภูมิภาคเอเชีย ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเกือบ 30 ล้านคน ถือเป็นสถิติสูงสุด เป็นผลมากจากความต้องการการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นของตลาดจีน เป็นการท้าทายสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยที่จะพัฒนาและขยายตัวเพื่อรองรับการเติบโตที่มากขึ้นในอนาคต
นายกอวได้เปิดเผยกับ DDproperty.com ต่อว่า “จากการที่ฟองสบู่ตลาดหุ้นจีนแตกเมื่อปีที่แล้ว นักลงทุนต่างพากันหอบเงินจำนวนมหาศาลออกจากแผ่นดินใหญ่ แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกำหนดโควต้าออกมาก็ยังไม่สามารถประคับประคองสถานการณ์ได้ เงินเหล่านี้แปรไปอยู่ในรูปของอสังหาฯ ในประเทศที่เอื้อต่อการทำธุรกิจอย่าง ออสเตรเลีย, เกาะฮ่องกง หรือแม้กระทั่งสหรัฐและแคนาดา ส่งผลให้เมืองอย่าง ซิดนีย์, แวนคูเวอร์และฮ่องกง เกิดฟองสบู่อสังหาฯ ราคาสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น”
ต่อข้อคำถามเกี่ยวกับการลดหย่อนเรื่องนโยบายและกฎระเบียบต่างๆ ในการที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะส่งผลให้เงินทุนเหล่านั้นเข้ามาดันให้ราคาอสังหาฯ ในไทยสูงลิ่วหรือไม่ นายกอว์ตอบว่า “หากรัฐบาลเปิดรับและลดหย่อนในระดับที่มากเกินไปอาจจะทำให้ราคาอสังหาฯ พุ่งขึ้นได้ ดังนั้นควรจะปรับลดในระดับค่อยเป็นค่อยไปเพื่อช่างน้ำหนักผลกระทบและวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด เพราะประเทศไทยยังต้องการการเข้ามาของเงินทุนล็อตใหญ่ หากปล่อยโอกาสหลุดไปเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย”

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com