ในฐานะผู้นำทัพ ฮันสโกรเฮอ (Hansgrohe) แบรนด์สุขภัณฑ์ชั้นนำที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี “เคซี ลี” กรรมการผู้จัดการ Hansgrohe ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งดูแลรับผิดชอบตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งเมืองไทย ตระหนักถึงความท้าทายในการเจาะตลาดและการสร้างแบรนด์สัญชาติเยอรมันในเมืองไทย
ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น Hansgrohe ได้รับรางวัลทางด้านการออกแบบมาแล้วกว่า 500 รางวัล และถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 10 ของบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดีไซน์มากที่สุดของโลก Hansgrohe ได้ทำการเปิดตัวในกลุ่มประเทศอาเซียนมาบ้างแล้ว และการตีตลาดเข้ามาสู่สยามเมืองยิ้มในครั้งนี้จะเป็นอีกความท้าทายหนึ่งที่ Hansgrohe ต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดีเพื่อที่จะเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย
“การไปประกอบธุรกิจในต่างแดนย่อมมาพร้อมกับความท้าทายเสมอ หนึ่งในความท้าทายที่เราประสบก็คือ เรื่องของภาษีนำเข้าที่จะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่า หากเทียบกับบริษัทภายในประเทศหรือบริษัทต่างประเทศที่ตั้งรากฐานอยู่ในประเทศตัวเอง” ลีกล่าว “แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของ Hansgrohe จะมีราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ แต่สิ่งที่ลูกค้าของเราจะได้รับอย่างแน่นอนก็คือคุณภาพในตัวสินค้า ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือดีไซน์”
สิ่งที่ Hansgrohe ยึดถือสืบทอดกันมาอย่างยาวนานก็คือการใส่ใจในคุณภาพของตัวผลิตภัณฑ์ บริษัทให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าให้ออกมาตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนั้นๆ ซึ่งปัจจุบันความต้องการสินค้าในโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรีที่เมืองไทยนั้นกำลังเติบโต
ลี อธิบายว่า “เราเชื่อว่าตลาดอสังหาฯ ในไทยจะกลับมาคึกคักได้อีกครั้งในระยะยาว และยังมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเราที่นี่ แม้ว่าตลาดโดยรวมจะค่อนข้างชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา แต่เซกเมนต์ลักซ์ชัวรียังคงมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้ ซึ่งเป็นผลดีกับเรา”
อย่างไรก็ตาม ลีมองว่าความหรูหราของโปรดักส์อย่างเดียวคงไม่พอ เพราะปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับห้องน้ำมากขึ้น พวกเขาเริ่มอยากได้สุขภัณฑ์และการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังสามารถสะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี เทรนด์ดังกล่าวกำลังแพร่หลายไปทั่วโลก และ Hansgrohe เองก็กำลังพัฒนาสินค้าเพื่อรองรับเทรนด์ดังกล่าว
“ในประเทศไทย ผู้บริโภคเริ่มมีความต้องการสุขภัณฑ์และการออกแบบห้องน้ำให้ตรงตามรสนิยมของตัวเอง” ลีกล่าว “เราจึงมีบริการที่เรียกว่า In-house customization ซึ่งเป็นการตกแต่งห้องน้ำตามความต้องการของลูกค้าถึงที่บ้าน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี โดยโทนสีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือสีทองแดง”
“ผู้บริโภคเริ่มมีความรู้และให้ความสำคัญกับห้องน้ำมากขึ้น ปัจจุบัน ห้องน้ำไม่ได้เป็นแค่ที่ที่ใช้อาบน้ำอย่างเดียวเหมือนในอดีต แต่เป็นพื้นที่ที่เราสามารถปลดปล่อยความเครียด ความเหนื่อยล้า และเติมพลังความสดชื่นให้กับตัวเองอีกครั้งเมื่อก้าวออกจากห้องนี้ ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเติมเต็มความสุขให้กับพวกเขาได้ หลังจากที่เหนื่อยล้าจากการทำงานในแต่ละวัน”
ผลิตภัณฑ์ของ Hansgrohe ได้รับการยอมรับและถูกนำไปใช้ในโปรเจกต์ระดับโลกมากมาย อาทิ โรงแรมโฟร์ซีซันส์ ในเมืองมิลาน, บุรจญ์เคาะลีฟะห์ในดูไบ, โรงแรมหรู The Bangkok EDITION ในโครงการมหานคร, โครงการคอนโดมิเนียม TELA ทองหล่อ และ สิทธร เรสซิเดนซ์ เป็นต้น การมีส่วนร่วมในโครงการชั้นนำเหล่านี้ทำให้ Hansgrohe ได้มีโอกาสเห็นเทรนด์และรสนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อห้องน้ำในอนาคตอีกด้วย
“ห้องน้ำในปัจจุบัน ไม่ได้มีไว้เพียงแค่อาบน้ำเพียงอย่างเดียว มันกำลังกลายเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้สามารถเติมเต็ม ความสุข และใช้เวลาอยู่กับตัวเองได้อย่างมีคุณภาพ พวกเขาต้องการสุขภัณฑ์ที่ไว้ใจได้ ดีไซน์ดูดี ใช้งานสะดวก รองรับไลฟ์สไตล์ของพวกเขาได้ดี”
ในขณะที่เมืองไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับในหลายๆ ประเทศทั่วโลกทำให้ Hansgrohe เริ่มเดินหน้าคิดค้นและออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับเทรนด์ดังกล่าว รวมไปถึงตอบโจทย์ความต้องการของทุกๆ คนในครอบครัว
“แต่ละครอบครัวย่อมมีสมาชิกที่ต่างเพศ ต่างวัย สิ่งสำคัญก็คือ ห้องน้ำต้องเป็นพื้นที่ที่สมาชิกทุกคน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่สามารถใช้ได้อย่างสะดวกสบาย” ลี กล่าวทิ้งท้าย
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เรียบเรียงโดย สิชฌ์ จงประสบธรรม ทีม Content ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Sitth@ddproperty.com