เสนาฯ ปลื้มปริ่มคอนโด เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 กวาดยอดขายฉลุย 85% เดินหน้าเปิดเฟส 2 ต่อเนื่อง ชูจุดเด่น”คอนโดฯแรกในไทย ที่ช่วยลดค่าไฟด้วยโซลาร์”
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง โครงการใหม่ “เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113″ มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาทว่า ได้รับการตอบรับที่ดี จากการเปิดขายในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 85% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายสิ้นปีนี้ โดยล่าสุด เตรียมเปิดเฟส2 จำนวน 2 อาคาร อาคาร A 195 ยูนิตและ อาคารB 230 ยูนิตทั้งหมด 425 ยูนิต ราคาเริ่ม 1.3 ล้านบาท และหลังจากเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว 1 สถานีช่วงแบริ่ง – สำโรงในวันที่ 5 ธันวาคมแล้ว จะมีการเปิดราคาเพิ่มขึ้นอีก 1 แสนบาท
นอกจากนี้ ส่วนของอาคารพาณิชย์ทั้งหมด 25 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 เฟส ส่วนของเฟสแรก 8 ยูนิต ราคาเริ่ม 7.4 – 8.4 ล้านบาท (ปัจจุบันขายโอนทั้งหมดแล้ว) และอยู่ระหว่างการเปิดขายเฟส 2 ทั้งหมด 17 ยูนิต ราคาเริ่ม 6.9 – 8 ล้านบาท
สำหรับซัพพลายอยู่ในละแวกตั้งแต่ สุขุมวิท ซอย 70 – สุขุมวิท ซอย 113 อยู่ระหว่างการเปิดขายประมาณ 5 โครงการมีไม่ต่ำกว่าหลายพันยูนิต ทั้งนี้ส่วนของโครงการดังกล่าวของบริษัท จะเป็นกลุ่มนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่าประมาณ 30% และส่วนใหญ่ยังเป็นลูกค้าซื้อเพื่ออยู่เอง ซึ่งในแง่ของอัตราการปล่อยในย่านนี้ผลตอบแทน (Yield) อยู่ที่ 5-7% หรื่อห้องชุดที่มีราคา 1 ล้านบาท อัตราการปล่อยเช่าจะอยู่ที่ 5,000 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะทยอยเปิดโครงการใหม่ที่เหลือครบ ภายในปีนี้ตามแผนอย่างต่อเนื่อง ตามแผนงานโครงการใหม่ในปี 2559 มีจำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,670 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 1,980 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2,690 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดแล้ว 2 โครงการ คือโครงการSENA Ville บรมราชชนนี – สาย 5 มูลค่าโครงการ 880 ล้านบาท และโครงการ SENA Park Ville รามอินทรา-วงแหวน เฟส 1 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท
โดยครึ่งปีหลังเปิดอีก 5 โครงการ โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้เปิด The Kith Plusสุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท , เดือนกันยายนเปิด The Niche Mono บางนา เฟส 3 มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท The Niche ID พระราม 2 เฟส 2 มูลค่าโครงการ 540 ล้านบาท และบริษัทจะทยอยเปิดโครงการที่เหลืออีก 2 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย The Kith Lite บางกะดี เฟส 2 มูลค่าโครงการ 310 ล้านบาท และ The Niche Mono สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 1,130 ล้านบาท
ด้านผลการดำนินงานในปี 59 บริษัทว่าคาดรายได้และยอดขายน่าจะเติบโตทะลุเป้าหมายที่วางไว้ ที่ 3.5 พันล้านบาท และ 4.5 พันล้านบาท ตามลำดับ จากช่วง 8 เดือนแรกของปีมีรายได้แล้ว 2.9 พันล้านบาท และยอดขาย 3.1 พันล้านบาท จากปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 1,500 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้อีกภายในปี 2560 โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 10% และโครงการแนวสูง90%
และในส่วนของเป้ารายได้ปี 60 คาดว่าจะเติบโตราว 20% จากปีนี้ โดยจะมีการรับรู้ยอดโอน (Backlog) โครงการเดอะนิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี มูลค่า 1.4 พันล้านบาท รวมถึงการปลดล็อกการถือครอง 5 ปีของโครงการรถยนต์คันแรกปลายปีนี้ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ในปีหน้าในจำนวนใกล้เคียงกับปีนี้ที่ 7 โครงการ แต่มูลค่าจะสูงกว่าปี 59 ที่มีมูลค่าโครงการใหม่รวม 4.69 พันล้านบาท ซึ่งน่าจะทำให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง และวางงบลงทุนซื้อที่ดิน 1-1.2 พันล้านบาท เน้นทำเลในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จากปีนี้ที้ใช้งบซื้อที่ดินราว 800-1,000 ล้านบาท
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com