ในทุกวิกฤติการณ์ไม่ว่าจะเป็นทั้งในด้านของภัยทางธรรมชาติหรือทางด้านเศรษฐกิจ หากแต่ละฝ่ายเลือกที่จะ “เสียสละ” ผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมจนกลายเป็น “ความสามัคคี” ในระดับมหภาค สังคมนั้นจะก้าวเข้าสู่หนทางแก้ปัญหาและกลับสู่ภาวะปกติได้รวดเร็วที่สุด ยิ่งเสียสละและสามัคคีกันมากเท่าไร ทางออกสู่ปัญหาก็จะถูกค้นพบและดำเนินได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น
จากกระแสพระราชดำรัสต่างๆของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเน้นย้ำเรื่องความเสียสละและสามัคคี จึงขอยกตัวอย่างพร้อมคำอธิบายดังนี้:
“…ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้ปรากฏตลอดว่า ชาติใดเสื่อมสูญย่อยยับอับปางไป ก็เพราะประชาชาติขาดสามัคคีธรรม แตกแยกเป็นหมู่คณะ เป็นพรรคเป็นพวก คอยเอารัดเอาเปรียบ ประหัสประหารซึ่งกันและกัน บางพรรคบางพวกถึงกับเป็นไส้ศึกให้ศัตรูมาจูโจมทำลายชาติของตนดังนี้ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนพี่น้องชาวไทยทั้งหลายให้ระลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ ซึ่งได้กอบกู้รักษาบ้านเกิดเมืองนอนของเรามานั้นให้จนหนักแล้วถือเอาความสามัคคี ความยินยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ของประเทศชาติเป็นคุณธรรมประจำใจอยู่เนืองนิจ จึงขอให้ชาวไทยทั้งหลาย จงบำเพ็ญกรณียกิจของตนแต่ละคนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทนและกล้าหาญ แล้วอุทิศความเสียสละส่วนตัว ความเหน็ดเหนื่อยลำบากยากเค้นเป็นพลีบูชาบรรพบุรุษ ผู้ซึ่งได้ก่อสร้างชาติเป็นมรดกตกทอดมาถึงพวกเราชาวไทยจนบัดนี้…”
กระแสพระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๔๙๔ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๔๙๓
ภาพขณะพระองค์ท่านประกอบพระราชกรณียกิจ ณ สวนบนดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการหลวงที่พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และวิถีเกษตรให้แก่ชาวเขาทางภาคเหนือ (ภาพ via: www.oknation.net)
ทุกความสูญเสียเกิดจากการขาดความสามัคคี และแต่ละการสูญเสียย่อมมีผู้ที่เสียสละยื่นมือเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงก่อให้เกิดประตูสู่ทางออกของปัญหา และคงจะเป็นการดีที่สุดที่ความเสียสละนั้นเป็นการเสียสละที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น และสำหรับพระองค์ท่านแล้วไม่มีสิ่งตอบแทนใดๆ ที่ดีเท่ากับการได้เห็นพสกนิกรของท่านนั้นกลับมายิ้มและมีความสุขได้อีกครั้ง
“…พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า บุคคลใดประกอบความดี คุณความดีนั้นย่อมต้องสนองตอบ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนแต่ละท่าน ให้พยายามบำเพ็ญความดีด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์ แม้บางโอกาสอาจจะต้องเสียสละบ้าง ก็จงมานะอย่าท้อถอย จงสมัครสมานสามัคคีร่วมใจกันให้มั่นคงด้วยดี ทั้งนี้เพื่อความสุขสวัสดีของท่าน และเพื่อความวัฒนาถาวรของประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทั้งหลาย…”
พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๔๙๗ ๓๑ ธันวาคม ๒๔๙๖
เชื่อเหลือเกินว่าหากเราตั้งใจทำความดีเพื่อผู้ที่เดือดร้อน ผู้รับการช่วยเหลือนั้นย่อมซาบซึ้งกับการกระทำที่เรามอบให้โดยที่ความรู้สึกซาบซึ้งนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดหรือคำเขียนแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่แสดงเจตจำนงที่ดีหรือเพียงแค่ให้กำลังใจแก่ผู้ที่เดือดร้อนเท่านั้น แต่ยังต้องติดตามถามผลอยู่เสมอว่าทุกข์ของบุคคลที่เราช่วยเหลือนั้นถูกบรรเทาลงอย่างแท้จริง จึงอยากขอถ่ายทอดเป็นภาษาชาวบ้านว่า “อย่าแสดงเพียงความหวัง แต่ให้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้วย” พระองค์ท่านเคยตรัสแก่ผู้ที่เฝ้าติดตามในขณะที่พระองค์ประกอบพระราชกรณียกิจช่วยเหลือราษฎรตามถิ่นต่างๆ เป็นใจความว่า “การเยี่ยมเยียนราษฎรนั้นไม่เพียงแต่เข้าไปเป็นเพียงขวัญและกำลังใจให้แก่พวกเขา แต่ยังต้องเข้าใจและรับฟังปัญหาของพวกเขาเพราะพวกเขานั้นเป็นผู้ประสบปัญหาจริง อย่าคิดทางแก้ปัญหาแทนเขาหากยังไม่ได้รับฟัง หลังจากนั้นจึงคิดหนทางแก้พร้อมนำไปปรับใช้จริง จนเกิดการแก้ไขในที่สุด”
จากแนวคิดนี้นำมาสู่รางวัลแมกไซไซ ในสาขาความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ ที่พระองค์ท่านได้เดินทางไปศึกษาปัญหาในพื้นที่ห่างไกลตามภาคต่างๆ ของประเทศ พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรในพื้นที่ต่างๆ ให้ดีขึ้น
นาง อังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศเยอรมนีได้กล่าวยกย่องพระองค์ท่านว่า “พระองค์ทรงงานอย่างหนักไม่หยุดหย่อน จนนำพาพสกนิกรที่เดือดร้อนผ่านช่วงวิกฤติไปได้”
ภาพขณะพระองค์ท่านประกอบพระราชกรณียกิจ ณ สวนบนดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการหลวงที่พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และวิถีเกษตรให้แก่ชาวเขาทางภาคเหนือ (ภาพ via: www.oknation.net)
ภาพขณะพระองค์ท่านประกอบพระราชกรณียกิจ ณ สวนบนดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการหลวงที่พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และวิถีเกษตรให้แก่ชาวเขาทางภาคเหนือ (ภาพ via: www.oknation.net)
เราเองในฐานะที่เป็นคนไทย เป็นลูกของพ่อหลวงแห่งผืนแผ่นดินไทย ควรเจริญรอยตามย่างก้าวของพ่อหลวง ด้วยการคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ก่อนประโยชน์ส่วนตน และเมื่อเกิดปัญหา ควรร่วมมือร่วมใจกันคิดหาทางแก้ไขเพื่อทางออกที่ดีที่สุดต่อส่วนรวม ถึงแม้ว่าขาจะมีมากแต่หากทุกขานั้นร่วมสามัคคีกันย่อมเกิดการขัดกันได้ยากเช่นเดียวกัน
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com
