“เจ.ดี.พูลส์” เผยไตรมาสสุดท้ายปีนี้ตลาดยังโต ชี้โรงแรม และรีสอร์ตเร่งการก่อสร้างรับฤดูกาลท่องเที่ยว พร้อมวางโรดแมฟปี 61 บินโรดโชว์ต่างประเทศเพิ่มในแถบยุโรป
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เจ.ดี.พูลส์ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3-4 นี้มีแนวโน้มเติบโตได้ในทิศทางที่ดี ที่ผ่านมาผู้ประกอบโรงแรมและรีสอร์ท มีการเร่งการก่อสร้างให้ทันต่อการรับช่วงหน้าฤดูการท่องเที่ยวในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันภาพรวมตลาดสระว่ายมีการแข่งขันและมีกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากทำให้เกิดการแข่งขันที่สูง โดยรายย่อยเน้นการขายราคาต่ำ แต่พยายามเคลมในเรื่องคุณภาพเกินจริง รวมทั้งรายเดิมที่เน้นการขายสินค้าต้นทุนต่ำแต่ตั้งราคาขายแพง นอกจากนี้ยังมีผุ้ประกอบการหลายรายยังคงเน้นทำตลาดสร้างสระว่ายน้ำแบบปูกระเบื้อง ซึ่งในระยะยาวผู้บริโภคอาจพบปัญหาไม่จบไม่สิ้นกลายเป็นปัญหาเรื้อรังตามได้
“ตลาดรับสร้างสระว่ายน้ำกว่า 50% เมื่อสร้างสระเสร็จแล้วไม่ได้รับการดูแลหรือไม่มีบริหารหลังการาขาย จึงเกิดเป็นปัญหาเสื่อมสภาพและใช้งานไม่ได้อีกต่อไป”
อย่างไรก็ตาม มองว่าภาพรวมตลาดสระว่ายน้ำในปี 2559 นี้ คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 20% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละไตรมาสยอดขายของ เจ.ดี.พูลส์ฯเติบโตต่อเนื่อง กล่าวคือ ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มียอดขาย 250 ล้านบาท โดยมาจากลูกค้า 4 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มสระบ้าน (กลุ่มสระว่ายน้ำที่สร้างโดยเจ้าของบ้าน) คิดเป็น 65% กลุ่มโครงการพูลวิลล่า (จากเจ้าของโครงการหมู่บ้าน และคอนโดมิเนียม) คิดเป็น 15%
กลุ่มโครงการโรงแรม และรีสอร์ต และ 4 กลุ่มอื่นๆ (สระว่ายน้ำจากโรงเรียน และหน่วยงานราชการ) คิดเป็น 10% โดยมียอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ๆ มียอดขายมากที่สุดคิดเป็น 85% อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา (โคราช) สงขลา (หาดใหญ่) ขอนแก่น และภูเก็ต ฯลฯ และจังหวัดกรุงเทพฯ คิดเป็น 15%
สำหรับปีนี้ ทางบริษัทปรับเป้ายอดขายจากเดิมที่ 1,000 ล้านบาท เป็น 940 ล้านบาท (ปี 2558 มียอดขายรวม 800 ล้านบาท) และในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 10% หรือจะได้เกินกว่าเป้า หากแผนต่างๆ เช่น แผนเปิดโชว์รูม 2-3 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20 แห่ง ในส่วนของศูนย์บริการ พีพีแอล จะเพิ่มอีก 2-3 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 7 แห่ง เป็นไปตามแผนที่วางไว้
โดยล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวธุรกิจบริการดูแลคุณภาพน้ำ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำให้สระทุกประเภท ภายใต้แบรนด์ “พลู โปรแอนด์แล็บ” หรือ พีพีแอล ทั้งนี้ ได้เปิดตัวรับบริการรีโนเวตสระว่ายน้ำทั่วประเทศเพิ่มเติมภายใต้แบรนด์ เจ.ดี.พลูส์ฯ คาดบริการใหม่จะผลักดันให้มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10 ของรายได้รวม อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4 นี้บริษัทได้จัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นตลาดสระว่ายน้ำ นอกจากนี้ บริษัทเตรียมออกบูทในงาน บ้านและสวนแฟร์ ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-6พ.ย.นี้อีกด้วย
ทั้งนี้ ทางบริษัทยังมีแผนการขยายไปตลาดต่างประเทศ โดยวางเป้าในปี 2561 จะไปโรดโชว์ ยุโรป แอฟริกา โดยในปัจจุบัน บริษัทได้มีการส่งออกไปยัง พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา มียอดขายจากตลาดส่งออกประมาณ 40-50 ล้านบาท นอกจากนี้ ในอนาคตอาจจะมีแผนในการสร้างสระว่ายน้ำราคาประหยัด (สระอีโค) เพื่อรุกตลาดระดับกลางด้วย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาระบบต่างๆ ด้วย
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com