นักธุรกิจคนดัง โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่มีคะแนนโหวตเหนือคู่แข่งคนสำคัญอย่างฮิลลารี คลินตัน ไปในแบบที่ต้องลุ้นกันจนเกือบจะนาทีสุดท้าย นับเป็นการเลือกตั้งที่สูสีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของแดนลุงแซม
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับเมื่อครั้งที่ผลประชามติของสหราชอาณาจักรที่ตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) หรือ Brexit เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมานั่นเอง
ชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นตัวแทนผู้สมัครจากทางฝั่งพรรครีพับลิกันในครั้งนี้ถือว่าเป็นการพลิกโผเล็กๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจต่อจากนี้ก็คือนโยบายที่ประธานาธิบดีป้ายแดงผู้นี้จะส่งผลกระทบอะไรต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทยหรือไม่
ทั้งนี้ ผู้คนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเอเชียหลายท่าน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกาในครั้งนี้
“ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ น่าจะส่งผลคล้ายๆ กับเมื่อครั้ง Brexit คือจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในภาพรวมมากกว่า และนั่นหมายความว่านักลงทุนหรือผู้ที่ถือครองทรัพย์สินมีแนวโน้มที่จะไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและปลอดภัย ซึ่งในจำนวนนั้นก็คือ อสังหาฯ ในทำเลเด่นๆ ตามเมืองหลักๆ ของโลก” นายนิโคลัส ฮอลต์ หัวหน้าฝ่ายวิจัย ไนท์แฟรงค์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว
นอกจากนี้ ชาวอเมริกันโดยกำเนิดอย่างนายจีน ลิกเกตต์ ซึ่งปัจจุบันเป็นตัวแทนอสังหาฯ อยู่ในสหราชอาณาจักรให้ความเห็นว่า “ชัยชนะของทรัมป์ในวันนี้จะสร้างความสั่นคลอนให้กับตลาดทุนทั่วโลก บริษัทและนักลงทุนหลายรายอาจจะเริ่มคิดที่จะย้ายการลงทุนออกจากอเมริกาไปยังประเทศที่มีความมั่นคงและปลอดภัยกว่านี้”
ในขณะที่นายวินสตัน ลี หัวหน้าประจำภูมิภาค ฝ่ายโครงการใหม่ ของพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป มองว่าชัยชนะของทรัมป์ในครั้งนี้น่าจะส่งผลต่อตลาดเกิดใหม่ในเอเชียที่ต้องพึ่งพิงเศรษฐกิจของอเมริกาและค่าเงินดอลลาร์เป็นอย่างมาก โดยนายลีได้ยกตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างกัมพูชา ที่การซื้อ-ขายอสังหาฯ นั้นใช้สกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งอาจจะส่งผลให้มูลค่าของอสังหาฯ ในกัมพูชาตกลงเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่มีคาดว่าจะอ่อนค่าลงนั่นเอง
ส่วนประธานเจ้าหน้าที่บริหารของพร็อพเพอร์ตี้ กูรู นายแฮรี่ คริชนัน กล่าวเสริมว่า “มีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดอสังหาฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะชะลอการเติบโต เนื่องจากนักลงทุนน่าจะเลือกที่จะรอดูและประเมินสถานการณ์ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลของชาติมหาอำนาจอย่างอเมริกานั่นเอง”
14 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เป็นบุตรคนที่ 4 จากบรรดาพี่น้อง 5 คนของมหาเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาฯ แห่งนิวยอร์ก นายเฟรด ทรัมป์ กับนางแมรี แอนน์
ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด โดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้ที่สืบทอดธุรกิจด้านอสังหาฯ ของครอบครัว โดยในปี พ.ศ. 2514 โดนัลด์ขึ้นนั่งตำแหน่งบริหารและได้เปลี่ยนชื่อบริษัทของครอบครัวจาก “เอลิซาเบธ ทรัมป์ แอนด์ ซัน” ไปเป็น “ทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น” พัฒนาโครงการอสังหาฯ หลากหลายรูปแบบทั่วอเมริกา และในต่างประเทศ
นอกจากธุรกิจด้านอสังหาฯ ทรัมป์ยังมีธุรกิจบันเทิง โดยเป็นผู้จัดการประกวดนางงามเวทีใหญ่ๆ ของอเมริกา รวมถึงรายการReality Show ในชื่อ “The Apprentice” ที่เปิดให้คนมาแข่งเพื่อชิงตำแหน่งงานบริหารในบริษัทของเขา ซึ่งเป็นรายการที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักทั่วโลกจนสร้างติดต่อกันถึง 14 ซีซั่น
ปัจจุบัน ทรัมป์แต่งงานกับ เมลาเนีย ทรัมป์ นางแบบชื่อดังชาวสโลวีเนีย มีบุตรชาย 1 คนคือ แบร์รอน วิลเลี่ยม ทรัมป์
Infographics via news.thaipbs.or.th
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือใครกำลังมองหาบ้านและคอนโดก็สามารถดูรีวิวโครงการใหม่ได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดยกองบรรณาธิการ DDproperty.com
