ห้องเล็กที่กว้างใหญ่ กับแมวสองตัวในนครไทเป

ชีวิตในนครไทเป ดูจะวุ่นวายและเร่งรีบ ไม่ต่างจากย่านสาทร สีลม หรืออโศก ในกรุงเทพฯ บ้านเราสักเท่าไร  หากจะหาสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไป ก็คงจะเป็นราคาของที่อยู่อาศัยที่แพงกว่า เนื่องจากไต้หวันเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่มีเนื้อที่จำกัด  ยิ่งเป็นพื้นที่ในตัวเมืองหลวงอย่างไทเปแล้ว เม็ดเงินมหาศาลอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นได้แค่เพียงห้องเล็ก ๆ ในอพาร์ทเม้นท์หลังหนึ่ง  อย่างคู่รักคู่หนึ่งพร้อมกับแมวอีกสองตัว ที่ได้รีโนเวทห้องทึบ ๆ อึดอัดของพวกเขา ให้กลายเป็นพื้นที่โล่ง เชื่อมต่อกัน พร้อมกลิ่นอายในสไตล์ของ Industrial Loft เล็ก ๆ  นอกจากนี้ พวกเขายังได้ใส่องค์ประกอบภายในห้อง ที่จะทำให้น้องแมวสองตัว ได้เดินเล่นผาดโผนอย่างอิสระ ห้องขนาด 45 ตารางเมตร เล็ก ๆ ห้องนี้ มีหน้าตาเป็นอย่างไร เราไปชื่นชมกัน 

เจ้าของห้องกำลังเล่นกับแมวบริเวณห้องนั่งเล่น

ห้องของคู่รักและแมวสองตัวห้องนี้ มีชื่อว่า Loft H ซึ่งถูกดีไซน์โดยกลุ่มสถาปนิกชาวไต้หวัน ST Studio  ตัวห้องเดิมนั้นเต็มไปด้วยกำแพง ที่โซนพื้นที่ต่าง ๆ ออกเป็นห้อง ๆ  ความเป็นส่วนตัวที่ได้มาในแต่ละห้องนั้น จึงถูกแลกมาด้วยความอึดอัดจากกำแพงทึบ ๆ ที่บดบังสายตา และแสงแดดที่สามารถส่องผ่านเข้ามา ซึ่งสามารถทำให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้นได้  พวกเขาจึงตัดสินใจเอากำแพงทั้งหมดออกไป และเชื่อมห้องต่าง ๆ เข้าด้วยกันเป็นพื้นที่เดียว แต่ก็ยังใส่ความเป็นส่วนตัวเล็ก ๆ บริเวณห้องนอน ด้วยการนำพาร์ทิชันมาขั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น

ท่อต่าง ๆ ทำให้ห้องดูมีสไตล์ Industrial Loft

เริ่มกันที่ห้องนั่งเล่น แสงธรรมชาตินั้นสามารถส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่ผ่านกระจกด้านข้าง ซึ่งช่วยทำให้เกิดความรู้สึกปลอดโปร่งภายในห้อง พวกเขายังนำตู้เสื้อผ้าออกไป และแทนที่ด้วยท่อสไตล์ Industrial ไว้แขนเสื้อผ้า ซึ่งทำให้ห้องนั้นมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมา โดยใช้งบประมาณไม่มากนัก  ทีวีนั้นจะตั้งอยู่ติดกับพาร์ทิชันที่ขั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน โซนครัวจะเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้เดินลึกเข้าไป มีพื้นที่สำหรับสองคนให้ยืนด้วยกันได้พอดี ส่วนพื้นนั้นเป็นปาร์เก้ไม้โอ๊ค ที่ทำให้ห้องดูอบอุ่น และตัดกับสีขาวของผนังห้องได้เป็นอย่างลงตัว

จะลงไปเดินเล่นด้านล่าง หรืออยู่บนนี้ต่อดี

ไฮไลท์ของห้องนี้น่าจะอยู่ที่ ชั้นวางหนังสือในห้องนั่งเล่นที่สามารถปรับระดับได้ เพราะมันคือสนามเด็กเล่นเล็ก ๆ สำหรับเจ้าแมวสองตัวนี้เอง  พวกมันสามารถเดินหรือกระโดดไปมาระหว่างชั้น หรือนอนชิล ๆ อยู่บนชั้นใดชั้นหนึ่งในยามว่างได้  เรียกได้ว่าได้ทั้งชั้นวางหนังสือและบ้านแมวไปด้วยในตัว  ส่วนห้องนอนนั้นถูกออกแบบมาในลุคมินิมอล โดยมีพาร์ทิชันเล็ก ๆ กั้นไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้ปิดทึบจนไม่มีทางเดินให้เจ้าเหมียวสองตัว แอบมานอนซุกด้วยในเวลากลางคืน  ด้านข้างเตียงยังเป็นกระจกใสที่จะส่องแสงแห่งวันใหม่เข้ามาในทุกรุ่งอรุณ

ความเป็น Industrial Loft ยังถูกผสมผสานลงไปในห้องน้ำ ซึ่งมาพร้อมกับอ่างล้างหน้าสองอ่านในสไตล์วินเทจ ให้คู่รักได้แปรงฟันไปพร้อมกัน  ผนังเเป็นกระเบื้องสีขาว ซึ่งตัดกันได้ดีกับสีของต้นไม้ และกระเบื้องหกเหลี่ยมสีดำบนพื้น เรียกได้ว่าเป็นห้องถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่สวยงามและมีสไตล์เพราะความเรียบง่ายนั้นเอง

อ่างล้างหน้าสไตล์วินเทจสำหรับคู่รักสองคน

น้องเหมียวในห้องอาบน้ำ

แปลนห้องระหว่างก่อนทำและหลังทำ

ขนาดของห้องดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้  แต่จริง ๆ แล้ว หากคุณเพียงมองให้เห็นกำแพงภายในที่ซ่อนอยู่ คุณก็จะสามารถเห็นได้ว่า กำแพงอันไหนนั้นไม่จำเป็นและสามารถเอาออกได้ ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็คือห้องที่ดูโปร่งโล่ง และรวมเป็นพื้นที่เดียวกัน แสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องเข้าถึงอย่างเต็มที่ พร้อมพื้นที่อิสระให้แมวสองตัวได้เดินเล่นอย่างสบายใจ  พวกเขาไม่ได้ใส่อะไรเพิ่มเข้าไป พวกเขาแค่นำสิ่งที่ไม่จำเป็นออกมา

ข้อมูลอ้างอิง: Dezeen

เรื่องข้างต้นนี้เขียนและเรียบเรียงโดย สิชฌ์ จงประสบธรรม ทีม Content ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Sitth@ddproperty.com