สยายปีกลงตลาดภาคตะวันออกปั้นอสังหาฯแนวราบ

30 พ.ย. 2559

 

ผ่าแผนธุรกิจรุกอสังหาฯ สยายปีกลงตลาดภาคตะวันออก “เจ.เอส.พี.” เผยได้ที่ดินพัฒนาแนวราบแล้ว 2 แปลงเด่น ระบุตลาดคอนโดย่านพัทยาโอเวอร์ซัพพลายเหลือขายบานตะไท

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี.แอสพลัส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)หรือ JSP ฉายภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี2560 ยังมีแนวโน้มทรงตัว ทั้งนี้ต้องรอดูว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ รวมไปถึงต้องรอดูนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยหรือไม่อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี2560 จะมีการปรับเปลี่ยนเน้นตลาดแนวราบแบบมิกซ์ยูสที่มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายเซกเมนต์ราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ภายใต้มาตรฐาน J ID ในราคาที่เข้าถึงได้ และรับรู้รายได้เร็ว เนื่องจากที่ผ่านมามีการพัฒนาโครงการคอนโดฯด้วย แต่ประสบปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์เพื่อโอนกรรมสิทธิ์จากหน่วยงานภาครัฐให้ลูกค้ามีความล่าช้า ทำให้รับรู้รายได้ช้าตามไปด้วย ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้เพียง 1,700 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2558 ถึง 38% โดยในปีหน้าจะปรับสัดส่วนการพัฒนาคอนโดฯลงเหลือ15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 40%

แต่อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าตามแผนจะเปิดตัวใหม่อย่างน้อย 3 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการแนวราบมิกซ์ยูส ย่านวงแหวน-บางใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 90 ไร่ ซึ่งอาจแบ่งเป็นการพัฒนาบ้านเดี่ยว ระดับราคา 4-5 ล้านบาท ,ทาวน์เฮาส์ ราคา 2.8 ล้านบาทขึ้นไป และบ้านแฝด ราคา 3.9 ล้านบาทขึ้นไป 2.โครงการบริเวณด้านหลังโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา มีแผนพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ ราคา 1 -2 ล้านบาท และ 3.โครงการโซนพัทยา พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป

ทั้งนี้ ทางบริษัทรุกตลาดจ.ชลบุรี มากขึ้นในปีหน้า เพราะมองว่าเป็นจังหวัดที่มีอัตราการเติบโตสูง มีจีดีพีสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งในอนาคตเมื่อโครงการระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐแล้วเสร็จทั้งหมดจะยิ่งทำให้จ.ชลบุรี มีอัตราการเติบโตมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการแนวราบราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ย่านชลบุรี ยังสามารถทำตลาดได้ ขณะที่คอนโดฯเริ่มเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายในโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ขณะนี้มีจำนวนยูนิตเหลือขายรวมทั้งจังหวัดประมาณกว่า 30,000 ยูนิต โดยเป็นโครงการในพัทยาสัดส่วน 70-80%

สำหรับในไตรมาส 4/2559 นี้บริษัทฯได้ทำการเปิดขายเพิ่มอีก 4 โครงการใหม่ และ บ้านรุ่นใหม่ในอีก 3 โครงการเดิมกลุ่ม เจ.เอส.พี. ซิตี้ รวมมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ เจ คอนโด พระราม 2 ติดเซ็นทรัลพระราม2 เป็นคอนโดโลว์ไรส์(Low rise) 8 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 1 ไร่ ขนาด 29-65 ตารางเมตร จำนวน 158 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 265 ล้านบาท 2.โครงการ เจ แกรนด์ สาทร – กัลปพฤกษ์ ทาวน์โฮม 3 ชั้น บนพื้นที่ 12 ไร่เศษ ขนาด 18.5 ตารางวาขึ้นไป จำนวน 133 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 3.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 610 ล้านบาท และ3.โครงการเจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์–บางบัวทอง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 86 ไร่เศษ ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม มูลค่าโครงการ 687 ล้านบาท และ 4.โครงการ เจ ซิตี้ ติวานนท์-บางกะดี ตั้งอยู่บนพื้นที่ 31 ไร่เศษ โดยเฟสแรกพัฒนาเป็นทาวน์โฮมและบ้านแฝด River View มูลค่าโครงการ 458 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 4 โครงการนี้จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในช่วงไตรมาส 3/2560 เป็นต้นไป

ในส่วนของผลประกอบในปีนี้ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เพียง 3,200 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 4,000 ล้านบาท และในปี 2560 ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท ส่วนยอดขายนั้นทั้งปีตั้งเป้าไว้ที่ 4,000 ล้านบาท โดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำได้แล้ว 2,800 ล้านบาท คาดว่าจนถึงปลายปีจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่อีกประมาณ 5,600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงปลายปีนี้ 2,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 3,600 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ถึงในปี 2561

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือใครกำลังมองหาบ้านและคอนโดก็สามารถดูรีวิวโครงการใหม่ได้ที่นี่

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

อสังหาฯ เปิดใหม่ 3 ไตรมาสลดฮวบ ตลาดคอนโดดิ่งเหว

อสังหาฯ 3 ไตรมาสคอนโดเปิดใหม่ลดฮวบ 17% สวนทางบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่เพิ่มข

อ่านต่อ29 พ.ย. 2559