จำได้ว่าช่วงเปิดตัวเดินรถใหม่ๆ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ประเด็น 1 สถานี หรือ 1 กิโลเมตรหายไปไหน? นั้น เป็นคำถามที่ทำให้เจ้าภาพ อย่าง รฟม. โดนอัดเละตุ้มเป๊ะ และกลายเป็นแผลเรื้อรังตามมา ซึ่งจากการแก้ปัญหาเบื้องต้น ก็ได้มีการส่งรถขสมก. วิ่งวนส่งผู้โดยสารจากสถานีเตาปูนไปสถานีบางซื่อ
ทว่าตามหลักแล้ว เส้นทางรถไฟฟ้าระหว่างสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินนั้น แยกออกจากกัน เพราะฉะนั้น คำว่าคนละระบบนับว่าถูกต้องแล้ว เนื่องจากเป็นคนละเส้นทางกันซึ่งในทางกายภาพไม่ได้อยู่บนเส้นทางเดียวกัน หรือเส้นทางไม่ได้ต่อกัน เพียงแต่ว่าที่สถานีเตาปูนนั้น สร้างเป็นสถานีเชื่อมต่อ เปลี่ยนถ่ายระหว่าง สายสีม่วง กับ สายสีน้ำเงิน และเมื่อเปิดให้บริการ ประชาชนจะพบว่า สถานีเตาปูนมี 2 ชานชาลา ชานชาลาบนเป็นสายสีม่วง ชานชาลาล่างเป็นสายสีน้ำเงิน
โดยความคืบหน้าล่าสุด ได้มีการเสนอบอร์ดรฟม.เห็นชอบว่าจ้างเดินรถ 1 สถานี คาดว่าจะลงนามจ้าง ในเดือนม.ค.2560 จากนั้นติดตั้งระบบและทดสอบการเดินรถ คาดว่าจะเปิดเดินรถ 1 สถานีที่ขาดช่วงได้ภายในเดือนส.ค.2560 ส่วนการเจรจาสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายทั้ง 2 เส้นทาง รฟม.อยู่ระหว่างเจรจาเรื่องผลประโยชน์กับบีอีเอ็ม ขณะนี้ยังมีตัวเลขที่แตกต่างกัน คาดว่าจะเร่งเจรจาให้ได้ข้อยุติเพื่อนำเสนอครม.เห็นชอบอนุมัติโครงการให้ได้เดือนก.พ.2560
“ที่ผ่านมาการเจรจากับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้า (BEM) ยังไม่ได้ข้อยุติ จนต้องขอขยายเวลาออกไปอีก 30 วันจนถึงวันที่ 16 ธ.ค. บอร์ดรฟม.เห็นว่าอาจทำให้การเจรจาเดินรถ 1 สถานีล่าช้าไปด้วย จึงมีมติให้รฟม.แก้ปัญหาด้วยการเดินรถ 1 สถานีดังกล่าวเองคาดว่าจะเสนอครม.ได้ภายในเดือนธ.ค.นี้”
สำหรับการโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2 เส้นทางสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ และคูคต-สะพานใหม่ ให้กรุงเทพมหานครนั้น โดยในสัปดาห์หน้าจะประชุมคณะกรรมการโอนหนี้สินจะต้องหารือเพื่อได้ข้อสรุปว่า กทม.พร้อมจ่ายเงินงวดแรก 3,500 ล้านบาท เพื่อแลกกับสิทธิการบริหารหรือไม่เนื่องจากก่อนหน้านี้กทม.ออกมาระบุว่าไม่มีเงินจ่ายงวดแรก ขณะที่รฟม.ได้เงินลงทุนก่อสร้างทั้ง 2 เส้นทางไป 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้หากที่ประชุมตกลงกันไม่ได้ กทม.ไม่พร้อมจ่ายเงินเพื่อรับโอนสิทธิจากรฟม. ซึ่งทาง รฟม.ก็ได้เตรียมหาทางออกไว้ 2 แนวทาง คือให้กทม.เช่าเพื่อเดินรถในเส้นทางดังกล่าว หรือหากเลวร้ายที่สุดก็คือรฟม.กลับมาเดินรถเองตามเดิม โดยจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนบริหารการเดินรถแบบพีพีพีระยะยาว โดยที่ประชุมคณะกรรมการโอนหนี้จะต้องนำผลสรุปการหารือเสนอให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ตัดสินใจชี้ขาดว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เพราะการดำเนินการดังกล่าวเป็นมติคจร. แต่หากให้รฟม. ดำเนินการก็คงต้องจ้างบีทีเอสเดินรถ
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรืออ่านรีวิวโครงการบ้านและคอนโดฯใหม่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
