เพราะเหตุใดเศรษฐีเบอร์1ของจีนจึงทุ่มลงทุนในอินเดีย?

chaiyasit bunnag2 ก.พ. 2559

เศรษฐีอันดับหนึ่งของเอเชีย Wang Jianlin เจ้าของและผู้ก่อตั้งกลุ่ม Dalian Wanda Group จำกัด ที่ทำธุรกิจตั้งแต่เครือโรงภาพยนตร์ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์โดยมีมูลค่าทางการตลาดมากที่สุดในจีนเลือกที่จะลงทุนกับเมกะโปรเจคมูลค่ากว่าแสนล้านเหรียญสหรัฐที่อินเดีย โปรเจคนี้อาจกลายเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของอินเดียเลยก็เป็นได้

นาย Wang Jianlin แห่ง Wanda Group

นาย Wang Jianlin แห่ง Wanda Group ภาพ via: http://b-i.forbesimg.com/

สุดยอดโครงการนี้คือการสร้าง “นิคมอุตสาหกรรม” ณ บริเวณแถบเหนือของรัฐหนึ่งในอินเดียที่มีชื่อว่า Haryana โดยมีชื่อในเฟสแรกของโครงการว่า “Wanda Industrial New City” ซึ่ง แวนด้า กรุ๊ป ของนายหวังได้บรรลุข้อตกลงในขั้นตอนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นิคมอุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2559 โดยภายในนิคมฯประกอบไปด้วยกลุ่มของโรงงานอุตสาหกรรมและกลุ่มบริษัทไล่ไปตั้งแต่ประกอบรถยนต์ไปจนถึงซอฟต์แวร์รวมถึงกลุ่มโรงพยาบาลด้วย เนื้อที่ของโครงการกินบริเวณถึง 13 กิโลเมตรด้วยกัน

หากอภิมหาโปรเจคนี้ถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์ขึ้นมาจริงๆคนที่จะได้รับเครดิตไปเต็มๆก็คือนายกรัฐมนตรีของอินเดีย Narendra Modi ในการพยายามที่จะดึงเม็ดเงินมหาศาลจำนวนนี้เข้าสู่ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของเอเชีย การยื่นเสนอการลงทุนครั้งนี้ยังเป็นการป่าวประกาศถึงความมั่งคั่งและอาณาจักรของนายหวังที่กล้าการันตีว่าตนคือบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย
โดยเม็ดเงินลงทุนนำร่องในช่วงแรกจะถูกโฟกัสไปยังระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยทาง แวนด้า กรุ๊ป จะเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนเอง หลังจากนั้นจะทยอยดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนรวมไปถึงผู้ประกอบการจากจีนและเวทีนานชาติเข้ามาร่วมระดมทุนในครั้งนี้ด้วย ข้อตกลงโครงการนี้ถูกบรรลุโดยสามฝ่ายนั่นคือ นายหวัง, นายกฯ โมดิ และหัวหน้ารัฐมนตรีแห่งรัฐฮายานานาย Manohar Lal Khattar

นายกฯ อินเดีย นาย Nerandra Modi

นายกฯ อินเดีย นาย Nerandra Modi ภาพ via: http://worldhindunews.com/

นอกจากนี้เฟสต่อๆไปอาจจะมีการเกิดขึ้นของ “Wanda Cultural Tourism City” บนพื้นที่โครงการเช่นเดียวกันโดยจะเน้นไปที่ธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯเพื่ออยู่อาศัย
อย่างไรก็ตามตัวเลขเม็ดเงินที่แท้จริงยังคงไม่เปิดเผย แต่จากรายงานของกลุ่ม แวนด้า กรุ๊ป ผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง WeChat เปิดเผยว่าทางบริษัทจะลงทุนประมาณหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

เดือนมกราคมที่ผ่านมาดูเหมือนว่าช่างเป็นช่วงที่วุ่นวายของนายหวังผู้ที่คุมบังเหียนดูแลธุรกิจตั้งแต่อสังหาฯ, ห้างสรรพสินค้า, อุตสาหกรรมบันเทิงรวมไปถึงธุรกิจทางการเงิน ถ้านับการเคลื่อนไหวทางธุรกิจและการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดของกลุ่มแวนด้า (business optimization) เฉพาะช่วงเดือนแรกของปี ’59 จะพบว่ามีทั้งการเข้าซื้อธุรกิจโรงพยาบาลถึงสามแห่งมูลค่ารวม 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงเข้าซื้อบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์อย่างเรื่อง Godzilla บริษัท Legendary Entertainment อีกด้วย และทางแวนด้าเองเพิ่งจะแถลงการณ์เปลี่ยนแปลงระบบโครงสร้างทางการเงินของกลุ่มบริษัทอาณาจักรของนายหวัง

สาเหตุหนึ่งที่นายหวังเลือกลงทุนในอินเดีย นั่นก็เพราะคาดว่าดินแดนภารตะจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่จะสูงถึงกว่า 7% ในปี ’59 (คาดการณ์โดย IMF) แรงขับเคลื่อนสำคัญเกิดขึ้นจากนโยบายของนายกฯ โมดิ อย่าง “Make in India” ที่ปรับโครงสร้างกฎหมายด้านการลงทุนเพื่อดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามา รวมถึงราคาน้ำมันที่ร่วงลงส่งผลให้อินเดียได้ประโยชน์ไปเต็มๆ

เห็นอย่างนี้ไทยเรายังคอยรอเม็ดเงินจากต่างชาติอยู่เพื่อมาส่งเสริมภาคอื่นๆไม่ใช่แต่ภาคโรงแรมหรือท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปเป็นเรื่องของการลงทุนด้านสติปัญญาและเทคโนโลยี (Intelligence and Technology) แล้วในโลกยุคสมัยนี้

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com 

 

เขียนความเห็น