สยามรีเทลฯ เปลี่ยนใจผุดเทอร์มินอล 21 ที่พัทยาแทนการลงใต้ไปนครศรีธรรมราช ในขณะที่ เทอร์มินอล 21 โคราช ซึ่งเป็นสาขาแรกนอกกรุงเทพฯ เตรียมเปิดให้บริการปลายปี 59 นี้
นายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม รีเทล ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, เทอร์มินอล 21, เดอะ พรอมานาด และไลฟ์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่าบริษัทได้มีการปรับแผนการลงทุนขยายสาขาของศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ซึ่งจะเน้นลงทุนในทำเลที่เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ทำให้บริษัทเปลี่ยนแผนจากการที่จะพัฒนาศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มาเป็นพัทยาแทน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะไปเปิดศูนย์การค้าดังกล่าวในขอนแก่นอีกด้วย
สำหรับความคืบหน้าของโครงการเทอร์มินอล 21 โคราช ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 2 ภายใต้แบรนด์เทอร์มินอล 21 หลังจากกรุงเทพฯ นั้น ขณะนี้ การก่อสร้างโครงสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% และคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2559 นี้
“เทอร์มินอล 21 โคราช คือโครงการใหม่ที่สำคัญของเราในปีนี้ และเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ระยะยาวจากเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ในตลาดภูมิภาค เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพในอนาคตของจังหวัดโคราชและภาคอีสาน โดยจะยังคงแนวคิดหลักเดียวกับเทอร์มินอล 21 กรุงเทพฯ คือ การสร้างสรรค์บรรยากาศแบบมาร์เก็ตสตรีทจาก 7 มหานครแห่งการช้อปปิ้งระดับโลก แต่จะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่าง และส่วนผสมร้านค้าเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ได้มากที่สุด” นายประเสริฐกล่าว
สำหรับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 32 ไร่ บนถนนมิตรภาพ มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท มีจุดเด่นเป็นหอคอยชมเมืองคล้ายหอบังคับการบินสูงเท่าตึก 30 ชั้นตั้งตระหง่านกลางเมืองโคราช มีพื้นที่รวม 200,000 ตร.ม. พื้นที่ส่วนให้เช่า 70,000 ตร.ม. และพื้นที่จอดรถยนต์ 2,500 คัน รถยนต์จักรยานยนต์ 1,800 คัน ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าเทอร์มินอล 21 อโศกเกือบ 3 เท่า
ปัจจุบัน อัตราการเช่าพื้นที่รวมในเทอร์มินอล 21 โคราชอยู่ที่ประมาณ 75% และมีผู้เช่าหลัก ได้แก่ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซิเนม่า ซิตี้ จำนวน 7 โรง, ไอซ์สเก็ต The Rink, สวนสนุก FANPEKKA, สปอร์ตฮอลล์, ซูเปอร์มาร์เก็ตฟู้ดแลนด์, สปอร์ตเวิลด์, โฮมโปร ลีฟวิ่ง, ศูนย์อาหาร Pier21 และโซนเครื่องเขียน นอกจากนี้ยังมี Mega Store คือ “Kelly” เป็นโซน Shoes & Bags Mega Store และ “Klein” ซึ่งเป็นโซน Menswear Mega Store รวมถึงร้านค้าขนาดใหญ่จากกว่า 200 แบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยเซ็นสัญญาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โซน Urbanista Shop ซึ่งเป็นโซนร้านค้าขนาดเล็ก พื้นที่ตั้งแต่ 6-20 ตร.ม. ทั้งหมดประมาณ 400 ยูนิต ก็ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการด้านแฟชั่นและผู้ประกอบการท้องถิ่นเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ บริษัท ได้เตรียมงบในการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์โครงการในช่วงเปิดตัวไว้กว่า 100 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการของกลุ่ม สยาม รีเทล ในปี 2558 ที่ผ่านมานั้น มีรายได้รวมสูงถึงกว่า 3,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 9% ซึ่งถือเป็นระดับการเติบโตที่น่าพอใจเมื่อพิจารณาจากความท้าทายและปัจจัยลบอื่นๆ เช่น เหตุการณ์ความไม่สงบ และภาวะการแข่งที่สูงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่รวมทุกศูนย์ฯ ซึ่งสูงถึง 98-100% รวมทั้งมีจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้นเป็นที่น่าพอใจในทั้ง 4 ศูนย์การค้าอีกด้วย
“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการค้าปลีกหลักๆ ต่างหันไปพัฒนาโครงการใหม่ๆ ตามหัวเมืองใหญ่และหัวเมืองรองในต่างจังหวัด บริษัทเองก็มั่นใจในความพร้อม จุดแข็งในการมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันไป ทั้งการออกแบบและพัฒนารูปแบบ ส่วนผสมร้านค้า บรรยากาศ องค์ประกอบต่างๆ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยขณะนี้ได้มีการศึกษาความพร้อมและเตรียมขยายการลงทุนสู่หัวเมืองหลักศักยภาพสูง อันได้แก่ พัทยาและขอนแก่น” นายประเสริฐกล่าวทิ้งท้าย
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่