พลัสฯ ชี้ปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าอสังหาฯ ทั้งส่งออก – ภัยแล้ง ส่งผลกำลังซื้อตลาดล่างหดตัว สวนทางตลาดบนยังขายดิบขายดี ปี’59
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยถึงภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 เติบโตไม่เกิน 5 – 10% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้คาดว่าช่วงครึ่งแรกของปียังคงได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังส่งผลต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยในราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่อยู่รอบนอกกรุงเทพฯ อีกทั้งมีอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำยังเป็นปัจจัยหนุน อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่อาจเริ่มทยอยประมูลและก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ภาครัฐผลักดันให้เกิดการก่อสร้างหลายเส้นทาง เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) เป็นต้น ซึ่งเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงกับเส้นทางรถไฟฟ้าอาจมีแนวโน้มเติบโตได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการเปิด AEC ที่จะส่งผลให้ตลาดเช่าของหัวเมืองใหญ่เติบโตได้ดี
ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ จะมาจากหนี้ครัวเรือน ภาวะภัยแล้ง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศและของโลกที่ต้องระมัดระวัง รวมถึงการประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ในปี 2559-2562 อาจส่งผลให้ต้นทุนที่อยู่อาศัยสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 ยังคงต้องดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามา แต่ก็มีปัจจัยบวกหลายด้านทั้งจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ นอกจากนี้ในส่วนของกำลังซื้อผู้บริโภคนั้นพบว่าภาพรวมยังพอไปได้ไม่ได้หวือหวา แต่กำลังซื้อในกลุ่มผู้บริโภคระดับบนยังเติบโตดี โดยจะเห็นได้จากการเปิดตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับบนที่สามารถขายได้ดี นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนบางส่วนที่เริ่มมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไปยังประเทศอื่นๆ เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของได้ 100% แตกต่างจากเมืองไทยที่กฎหมายยังไม่เปิดช่องให้มากขนาดนั้น เช่นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่นิวยอร์ก และลอนดอน เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศโดยเฉพาะนิวยอร์กราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในส่วนของผลประกอบการในปี 2558 ทางบริษัทพลัสฯสามารถปิดการขายโครงการระดับไฮเอนด์ของแสนสิริ 4 โครงการ (เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า, เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71, เดอะ ไลน์ ราชเทวี) มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 12,000 ล้านบาท ส่วนการขายโครงการอื่นๆ นั้น มีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ประกอบกับปี 2558 ที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทฯ เองมีโอกาสในการรับงานบริหารฯ เพื่อการพักอาศัยมากขึ้น และส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับบน ทั้งนี้ในปี 2558 บริษัทมีรายได้รวม 965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากปี 2557 มาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (ตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาฯ) 45% และอีก 55% เป็นรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ปัจจุบันมีโครงการที่บริหารทั้งสิ้น 185 โครงการ (จาก 161 โครงการเมื่อปี 2557)
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่sineewan@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่