คาดธุรกิจโรงแรมในไทยปี59ฟื้นตามความแรงของการท่องเที่ยว

Kanchana Paha18 ก.พ. 2559

เจแอลแอลเชื่อธุรกิจโรงแรมในไทยปี 59 ฟื้นตัวต่อเนื่องรับอานิสงส์ธุรกิจท่องเที่ยวโต

นายไมค์ แบทเชเลอร์ กรรมการผู้จัดการด้านบริการการลงทุน หน่วยบริการธุรกิจโรงแรมของบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริทรัพย์ เจแอลแอล เปิดเผยว่าแม้ในช่วงปี 2556-2557 ภาคธุรกิจโรงแรมของไทยจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความผันผวนทางการเมือง แต่ในปีที่ผ่านมากลับพบว่าตลาดโรงแรมปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 30 ล้านคน

“การที่ประเทศไทยสามารถกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ค่อนข้างเร็ว ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น เช่น การชุมนุมประท้วง การปิดสนามบิน การปฏิวัติ ตลอดรวมไปจนถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีส่วนช่วยจำกัดความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม”นายแบทเชเลอร์กล่าว

การขยายตัวเส้นทางบินของสายการบินต้นทุนต่ำไปยังสนามบินที่ใกล้กับเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น สนามบินสุราษฎร์ธานี และสนามบินอู่ตะเภา ที่ทำให้การเดินทางต่อไปยังเกาะสมุยและพัทยามีความสะดวกขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้การท่องเที่ยวขยายตัว ดูได้จากกรณีของพัทยาที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้น 13% หลังจากแอร์เอเชียเปิดเส้นทางบินไปยังเมืองต่างๆ ของจีนเพิ่มขึ้น เช่น หนานหนิง และหนานฉาง

นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ อาทิ การออกวีซ่าครั้งเดียวที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้หลายครั้งในระยะเวลา 6 เดือน, การกลับมาเปิดใช้อาคารเทอร์มินัล 2 ของสนามบินดอนเมือง และโครงการขยายสนามบินภูเก็ตที่กำลังจะเสร็จสิ้นและจะทำให้สามารถรองรับผู้เดินทางได้เพิ่มขึ้นจาก 6.5 ล้านคน เป็น 12 ล้านคน เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยมีความคึกคักขึ้น

ในส่วนของภาคธุรกิจโรงแรมนั้น การฟื้นตัวคาดว่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีซัพพลายโรงแรมสร้างเสร็จใหม่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก

กลุ่มโรงแรมระดับสามดาวคาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากมีกรุ๊ปทัวร์เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวจากจีน โดยขณะนี้ กลุ่มโรงแรมสามดาวมียอดการเข้าใช้บริการห้องพักเฉลี่ยสูงถึง 70% สูงกว่าโรงแรมกลุ่มอื่น ส

ส่วนในกรุงเทพฯ จะมีโรงแรมสร้างเสร็จเพิ่มขึ้นอีก โดยจะเป็นโรงแรมในกลุ่มสามดาวรวมทั้งสิ้น 5,500 ห้อง

ในขณะที่โรงแรมหรูนั้น พบว่ามีปริมาณความต้องการเพิ่มขึ้นรับกับซัพพลายใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นได้ค่อนข้างดี ตัวอย่างเช่น เกาะสมุยจะมีโรงแรมหรูสร้างเสร็จเพิ่มขึ้นอีก 900 ห้องในช่วง 2 ปีข้างหน้า สอดคล้องกับแนวโน้มการเข้าใช้บริการห้องพักที่น่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการเดินทางมีความสะดวกมากขึ้นและจำนวนนักท่องเที่ยวจะขยายตัวเพิ่มขึ้น

ในส่วนของการลงทุนซื้อขายโรงแรม แม้นักลงทุนจะมีความสนใจสูงที่จะลงทุนซื้อโรงแรมในช่วงปี 2559 นี้ แต่โรงแรมที่เหมาะกับการลงทุนนั้นมีเสนอขายอยู่ในตลาดค่อนข้างน้อย ทำให้มีราคาสูง ซึ่งหากนักลงทุนซื้อในช่วงนี้มีแนวโน้มที่อาจจะได้ผลผลตอบแทนไม่สูงมากนัก ทำให้เจแอลแอลคาดการณ์ว่านักลงทุนไทยส่วนหนึ่งจะหันไปลงทุนซื้อโรงแรมในต่างประเทศแทน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ