สัมมากร มั่นตลาดอสังหาฯฟื้นจ่อเปิด 3 โครงการใหม่แนวราบ

24 ก.พ. 2559

สัมมากร มั่นใจตลาดอสังหาฯ ปี 59 ปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจ วางแผนเปิด 3 โครงการใหม่เน้นตลาดแนวราบ

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2559 ว่าจะเร่งระบายสต็อกบ้านโครงการเดิมที่ยังเหลืออยู่ไม่มาก ประมาณ 110 ยูนิต หรือมูลค่า 680 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม เอสเก้า ประมาณ 800 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการในปีนี้ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวรังสิต คลอง7 มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม รามอินทรา-วงแหวน มูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการเดิมและโครงการใหม่ที่จะมีการสร้างเสร็จพร้อมโอนในปี 2559 ประมาณ 2,100 ล้านบาท ในส่วนของศูนย์การค้าชุมชน เพียว เพลส ที่ปัจจุบัน มีจำนวน 3 ศูนย์ ได้แก่ สาขารามคำแหง110 สาขารังสิต คลอง2 และสาขาราชพฤกษ์ ทางบริษัทฯ จะดูแลพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เป็นศูนย์การค้าของชุมชน ให้ความสะดวกสบายกับลูกบ้านสัมมากร และประชาชนในละแวกใกล้เคียง ตามนโยบายการดำเนินงานที่ว่า “เราไม่เพียงสร้างบ้าน แต่เราสร้างสังคม”

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้ปรับปรุงระบบการบริหารจัดการภายในบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ อันรวดเร็วในอนาคต และเพื่อตอกย้ำคุณภาพมาตรฐานที่ผู้บริโภควางใจได้ในแบรนด์สัมมากร โดยการใช้ระบบการบริหารงาน Enterprise Resource Planning:ERP อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้การสื่อสารวิเคราะห์ข้อมูลรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำยิ่งขึ้น และปรับปรุงระบบก่อสร้างเป็นระบบ PreFab ระบบก่อสร้างงานสำเร็จรูป เพื่อช่วยลดเวลาในการก่อสร้าง อีกทั้งสามารถควบคุมคุณภาพการผลิตได้อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กรให้ดูทันมัยขึ้น ผ่านรูปแบบการสื่อสารทุกช่องทางและมุ่งสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

160218_Clubhouse_Finalสำหรับผลประกอบการปี 2558 ทางบริษัทมียอดรับรู้รายได้ปี 2558 รวม 1,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2557 ประมาณ 31% โดยแบ่งสัดส่วนรายได้มาจากแนวราบ 900 ล้านบาท และแนวดิ่ง 350 ล้านบาท และอื่นๆ เช่น ค่าเช่า 250 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว และท่ามกลางปัจจัยลบตลอดปี 2558 ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จปัจจัยหลักมาจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม เอสเก้า ที่สร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา กอปรกับนโยบายการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและจำนองอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 มีแนวโน้มตลาดเติบโตดีขึ้นกว่าปี 2558 ตามทิศทางของเศรษฐกิจ จากคาดการณ์การเติบโตของ GDP ประมาณ 3.7% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตปี 2558 ที่ขยายตัวเพียง 2.8-3.0% ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การตัดสินใจใช้จ่ายและซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ นอกจากนี้ การลงทุนของภาครัฐด้านระบบสาธารณูปโภคยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการลงทุนของภาครัฐอีกหลายโครงการในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะการสร้างขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งล้วนแล้วเป็นผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในแง่เพิ่มศักยภาพพื้นที่นอกเมือง

ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑลปี 2558 มีมูลค่า 484,115 ล้านบาท และมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญของจำนวนทาวน์เฮ้าส์ ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเพียง 30% แต่กลับมียอดโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นในปี 2558 เป็น 35% สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีฟังก์ชันเหมือนบ้านเดี่ยวในราคาที่ประหยัดขึ้น ดังนั้น ในปีนี้ คาดการณ์ว่ากลุ่มทาวน์เฮ้าส์ จะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มกำลังซื้อ 2-4 ล้านบาท ในขณะที่บ้านเดียวจะเป็น กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ในช่วงราคา 6-7 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนคอนโดมิเนียมคาดว่ามีการเติบโตต่ำ มาจากกลุ่มนักลงทุนชะลอการลงทุนในคอนโดมิเนียม กอปรกับสถานการณ์ โอเวอร์ซัพพลายของตลาดคอนโดมิเนียมในบางพื้นที่

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ณ วรางค์ฯ งัดที่ดินเก่าหลังสวน ผุดคอนโดหรู “ณ วรา เรสซิเดนซ์”

“ณ วรางค์”ปั้นคอนโดหรูในซอยหลังสวนจับกลุ่มลูกค้าไฮโซ ขายตารางเมตรละ 23

อ่านต่อ24 ก.พ. 2559