นักวิเคราะห์คาดสงกรานต์ปี 59 คนเล่นน้ำลดลง หลังปัญหาภัยแล้งกระทบหนัก ผลสำรวจโชว์คนกรุงส่วนใหญ่เลือกนอนพักผ่อนอยู่บ้าน มากกว่าออกเที่ยว
จากบทวิเคราะห์โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าสองปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมของคนกรุงเทพฯ ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ได้แก่ ปัญหาภัยแล้วและภาวะเศรษฐกิจ
โดยหลังจากที่สถานการณ์ภัยแล้งได้เริ่มขยายวงกว้าง ทำให้ในหลายพื้นที่ของประเทศเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำ จนทำให้ภาครัฐออกมารณรงค์และขอความร่วมมือเล่นน้ำสงกรานต์อย่างประหยัดในทุกพื้นที่เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ภัยแล้งดังกล่าว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะส่งผลต่อความคึกคักของเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้
นอกจากนี้ จากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังพบอีกว่า คนกรุงเทพฯ มากถึงร้อยละ 53 มองว่าภัยแล้ง คือปัจจัยหลักที่มีผลต่อพฤติกรรมการทำกิจกรรมและการจับจ่ายใช้สอยของตน รองลงมาคือ ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ (ร้อยละ 27) ซึ่งหากพิจารณามุมมองด้านกำลังซื้อของผู้บริโภค จะเห็นได้ว่าภาระค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ยังมีผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนเมือง
อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์ภัยแล้งจะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและการจับจ่ายใช้สอยของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการเล่นน้ำสงกรานต์ รวมถึงการวางแผนท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักที่ทำในช่วงวันหยุดสงกรานต์ แต่คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 94 ให้ความเห็นว่า พร้อมจะปรับพฤติกรรมในกิจกรรมที่ต้องใช้น้ำลง อาทิ ยังคงเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ แต่อาจจะลดจำนวนวันหรือชั่วโมงในการเล่นลง หรือเลือกที่จะลดปริมาณน้ำที่ใช้ในการเล่นลงให้เหลือเพียงการใช้ปืนฉีดน้ำหรือขันใบเล็กแทน
ทั้งนี้ จากการสำรวจถึงกิจกรรมทดแทนการเล่นน้ำในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่คนกรุงเทพฯ สนใจ ปรากฎว่าคนกรุงถึงร้อยละ 85 เลือกพักผ่อนอยู่บ้านมากที่สุด รองลงมาคือ วางแผนท่องเที่ยว แต่เปลี่ยนจากสถานที่ท่องเที่ยวอย่างน้ำตก หรือล่องแพใกล้กรุง ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำอื่นๆ เช่น การเที่ยวทะเลในภาคใต้หรือภาคตะวันออก หรือสวนน้ำ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 72 และช้อปปิ้ง/ เดินห้าง/ กินข้าวนอกบ้าน ร้อยละ 30
สำหรับมาตรการภาครัฐที่ออกมากระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงสงกรานต์ปี 2559 ด้วยการนำค่าอาหารและเครื่องดื่มในร้านอาหาร (ไม่รวมสุรา เบียร์ ไวน์) รวมถึงค่าที่พักและค่าบริการนำเที่ยว สำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน 2559 มาหักลดหย่อนภาษีได้ (แต่ต้องไม่เกินคนละ 15,000 บาท) นั้น คาดว่าจะจูงใจให้คนกรุงที่ยังไม่ได้วางแผนท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมหันมาวางแผนทำกิจกรรมในช่วงสงกรานต์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะปลุกความคึกคักให้กับภาคเศรษฐกิจขึ้นได้อีกครั้งหนึ่ง
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
