รู้หรือไม่ ทำไมปีนี้ร้อนปรอทแตก?

chaiyasit bunnag22 เม.ย. 2559

ร้อนกันนะครับช่วงนี้ ไม่ใช่แค่ร้อน แต่ร้อนมากๆ ไม่น่าแปลกใจที่อุณหภูมิบางวันในช่วง มี.ค. – เม.ย. ไปแตะกันที่ 40 กว่าองศาเซลเซียส แดดก็ร้อนอารมณ์คนเราเลยเสียง่าย แต่ถ้าดูถึงสาเหตุจริงๆก็ไม่ใช่ปลาวาฬหรือแมวน้ำที่ไหนที่ทำให้บรรยากาศร้อนและทำให้ค่า CFC สูงขึ้นในบรรยากาศ แน่นอน มนุษย์เรานี่เองที่เข้าไปทำลายสิ่งมีชีวิตเพื่อนร่วมโลกกับเรามาอย่างช้านานอย่างต้นไม้ แล้วทำไมต้องเข้าไปตัดพวกเขาด้วยพวกเขาอยู่เฉยๆไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย แต่มนุษย์ไม่ได้รักต้นไม้เหมือนที่ต้นไม้พยายามเป็นห่วงพวกเราหรอกครับ มนุษย์เราตัดต้นไม้นำชิ้นไม้ไปทำโปรดัคต่างๆส่งขายสร้างผลกำไรให้กับผู้ค้าและความภิรมย์ส่วนตัวสำหรับลูกค้าที่ต้องการเรือนประดับด้วยไม้โดยเฉพาะพันธุ์ไม้หายาก ถึงแม้ว่าจะถูกบัญญติไว้ใน พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติที่ออกข้อห้ามการกระทำใดๆที่ก่อความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าตามมาตรา 14 ที่กล่าวไว้ว่า “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ”

ส่วนวิธีฟื้นฟูป่าของเราทำง่ายมากครับแต่คำว่าง่ายนั้นต้องใช้เวลาโดยมีขั้นตอนคร่าวๆดังนี้:
หยุดการตัดไม้ทำลายป่าและทวงคืนผืนป่า –> ปรับปรุงระบบบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ –> ฟื้นฟูสภาพป่าทั้งประเทศ –> มีพื้นที่ป่า 40% ของพื้นที่ประเทศ
การจะบรรลุเป้าหมายมาถึงช่วงที่ 4 คาดว่าใช้เวลาตั้งแต่ 2 – 10 ปี หากร่วมแรงร่วมใจกันอย่างจริงจังเราอาจจะเห็นสัดส่วนพื้นที่สีเขียวใกล้เคียงกับเมื่อช่วง 40-50 ปีก่อนก็เป็นได้
ไอ้ตัดน่ะป่าเขาไม่เคืองเท่าไรแต่ตัดแล้วไม่ปลูกคืนนี่สิเขาก็เลยไปบอกธรรมชาติให้ลงโทษเราทางอ้อมโดยการส่งอากาศที่ร้อนระอุมาให้เราได้ใช้ชีวิตกันโดยเฉพาะประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างประเทศไทยเรา แล้วก็มานั่งบ่นนั่งน้อยใจว่าทำไมมันช่างแห้งแล้งขาดน้ำกันอย่างหนัก นั่นก็เพราะไม่ใช่การกระทำที่ไม่ยั้งคิดเพื่อประโยชน์ส่วนตัวไล่ตั้งแต่พ่อค้าไม้เถื่อนไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดที่หลับหูหลับตาคอรัปชั่นทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับขบวนการเหล่านี้หรอกหรือ?

foreest-th2
ภาพแสดงจำนวนป่าไม้ที่หายไป

แต่อาจจะเป็นเรื่องต้องสะท้อนไปยังจิตสำนึกของคนในชาติเองด้วยว่าเราไม่สามารถคิดอย่าง ญี่ปุ่น หรือ สิงคโปร์ ได้ ที่ทางเจ้าหน้าที่ภูมิภาคระดับสูงของเขาวางแผนระยะยาวในเรื่อง “สีเขียว” จริงๆ ผู้พัฒนาโครงการอย่ามัวสนใจแต่พัฒนาโครงการจนลืมพัฒนาสิ่งพื้นฐานที่เป็นที่ตั้งของสิ่งมีชีวิตอย่าง “ธรรมชาติ” กันบ้าง ก่อนที่จะไม่เหลือพื้นที่ที่สามารถพัฒนาต่อไปได้แล้วในอนาคต

ภาพประกอบ อึ้ง! สภาพเขา “น่าน” โล้นทั้งลูก – manager.co.th

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค นักเขียนประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

6 ยุทธศาสตร์จัดการน้ำดับภัยแล้ง 12 ปีจากภาครัฐ

น้ำนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบต่างๆ ของร่างกาย ดัง

อ่านต่อ20 เม.ย. 2559