SPALI ลุยเปิดครึ่งปีหลังล็อตใหญ่ แตะเบรคโครงการแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ศุภาลัย ลุยอสังหาฯครึ่งปีหลังเปิดเพิ่ม 17 โครงการ รวมมูลค่าเบ็ดเสร็จ 25,000 ล้านบาท ชี้มาตรการรัฐหนุนยอดโอน เดือนเมษาเดือนเดียวโอน 5,000 ล้านบาท มั่นใจรายได้ทั้งปีแตะ 22,000 ล้านบาทตามเป้า ล่าสุดเปิดคอนโดใหม่ ศุภาลัย แอทลีท สี่พระยา เตรียมวางขาย 8-12 มิ.ย.59 คาดยอดขายวิ่งกระฉูด 70%

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI) กล่าวว่า สำหรับในครึ่งปีแรกของปี 2559 ทางบริษัทได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว 11 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 9 โครงการ และแนวสูง 2 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 12,100 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลัง เตรียมจะเปิดเพิ่มอีกทั้งหมด 17 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 12 โครงการ มูลค่า 14,000 ล้านบาท และแนวสูง 5 โครงการ รวมมูลค่า 11,000 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 25,000 ล้านบาท

ซึ่งล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรู คือ “ศุภาลัย แอลีท สี่พระยา” มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการกว่า 2 ไร่ 3 งาน เป็นอาคารพักอาศัย 1 อาคาร สูง 36 ชั้น (รวมดาดฟ้า) และอาคารจอดรถพร้อมอาคารสโมสร สูง 8 ชั้น มีจำนวนห้องพัก 384 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 41.5-139 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน-3 ห้องนอน ราคาขายตั้งแต่ 4.1-17.5 ล้านบาท หรือราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 110,000 บาท/ตารางเมตร

ขณะที่ จุดเด่นของโครงการอยู่ที่ทำเลศักยภาพที่สะดวกในการเดินทาง ใกล้กับ MRT สามย่าน จุดขึ้นทางด่วนด่านสุรวงศ์และพระราม 4 และยังใกล้กับสถานศึกษาและห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง โดยจะเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 8-12 มิ.ย.59 พร้อมกับจัดโปรโมชั่นพิเศษ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายจากงานพรีเซลล์อยู่ที่ 60-70% ของมูลค่าโครงการ

“คอนโดฯ เปิดใหม่ในย่านสี่พระยาไม่มีเลย เปิดล่าสุดเมื่อ 3 – 4 ปีก่อน โดยราคาที่เปิดขายอยู่ตารางเมตรละ 80,000 – 90,000 บาท ปัจจุบันมีแต่คอนโดฯ รีเซลที่ขายตารางเมตรละ 1 แสนบาทขึ้นไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าย่านนี้ไม่มีที่ดินเปล่า มีแต่อาคารพาณิชย์เก่า ประกอบกับราคาที่ดินค่อนข้างสูงปัจจุบันขายตารางวาละเกือบครึ่งล้าน โดยทางบริษัทได้ซื้อที่ดินมาและโอนกรรมสิทธิ์มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว”

สำหรับแนวโน้มยอดโอนในไตรมาส 2/59 จะสูงกว่าไตรมาส 1/59 ที่มียอดโอนได้ 6.27 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของมาตรการรัฐลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง ทำให้ลูกค้าต่างเร่งโอนโครงการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดโอนในเดือน เม.ย.59 เพียงเดือนเดียวนั้นสามารถทำยอดโอนได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท สูงกว่าทั้งไตรมาส 1/59 และเป็นตัวเลขยอดโอนในเดือนเดียวที่สูงที่สุดตั้งแต่บริษัทก่อตั้งมา โดยเฉพาะในวันที่ 28 เม.ย.59 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของมาตรการมียอดโอนอยู่ที่ 1 พันล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากหมดมาตรการลดหย่อนค่าโอนและค่าจดจำนองไปแล้ว ยอดโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้คงชะลอตัวลงบ้าง แต่ยังมั่นใจว่ารายได้ทั้งปีจะยังสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ 22,000 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะมาจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 11,600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนในไตรมาส 2/59 ถึงไตรมาส 4/59

ขณะที่ตัวเลขยอดพรีเซลล์ของบริษัทในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 6,600 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 24,500ล้านบาท แม้ว่ายอดขายในครึ่งปีแรกยังทำได้ไม่ถึง 50% ของเป้าหมาย เนื่องจากมีการเปิดขายโครงการใหม่ไม่มากนัก แต่เชื่อว่ายอดขายจะเข้ามามากในช่วงครึ่งปีหลังจากการเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับสถานการณ์โอเวอร์ซัพพลายด์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์บนทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้น ทางบริษัทมีการพิจารณาและตัดสินใจเลื่อนการเปิดโครงการในทำเลดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อรอดูสถานการณ์ของอัตราการขายของโครงการที่เปิดขายอยู่แล้ว หลังจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงอย่างเป็นทางการแล้ว ประกอบกับ มีความสนใจของลูกค้าในการซื้อโครงการในทำเลดังกล่าวก็ชะลอลง เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงพบว่ายังมีปัญหาจุดเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินระยะทาง 1 กิโลเมตร ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีโครงการที่เปิดขายอยู่ในทำเลดังกล่าวจำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งทำยอดขายได้เฉลี่ย 50% แต่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ ทำให้บริษัทจึงชะลอแผนการการเปิดโครงการใหม่ในทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงออกไป