โรคบ้างาน กับความเชื่อผิดๆ ที่ว่างานหนักไม่เคยทำร้ายใคร

Kittikom 14 มิ.ย. 2559

ความสัมพันธ์ในครอบครัวแย่ลง เพื่อนฝูงค่อยๆ หายไป อีกทั้งยังหงุดหงิดง่าย มองอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด โน่นก็ไม่ได้ดั่งใจ นี่ก็ไม่ได้ดั่งใจ ทำไมไม่มีใครเข้าใจเราเลย (วะ !!) คุณมีอาการอย่างนี้บ้างหรือเปล่าครับ ถ้ามีล่ะก็รู้ตัวไว้เลยว่าคุณต้องเป็น “โรคบ้างาน” หรือ “โรคออฟฟิศ ซินโดรม” แน่ๆ  ซึ่งนอกจากอาการผิดปกทางจิตข้างต้นแล้ว มักตามมาด้วยอาการปวดหัว ปวดท้อง ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ สายตาพร่ามัว หรืออาจหนักถึงขั้นเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดัน และโรคกระเพาะ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็มาจากการทำงานเป็นเวลานานโดยไม่สนใจตัวเองและคนรอบข้างนั่นเอง

สำหรับการรักษานั้น หลายคนรักษาแบบขอไปที เช่น เมื่อปวดหัวก็กินยาพารา ปวดท้องก็กินยาแก้ปวดท้อง เป็นต้น ถ้าจะบอกว่าเป็นการรักษาที่ผิดก็ไม่เชิง แต่ก็ไม่ใช่การรักษาที่ถูกเช่นกันครับ เพราะหลายครั้งเมื่อกินยาไปแล้วอาการอาจจะหายในช่วงแรก แต่เชื่อเถอะว่าถ้ายังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน อาการเหล่านั้นก็จะกลับมาอีก และยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ จากการสะสมเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งวิธีแก้โรคบ้างานที่ดีที่สุดการดูแลตัวเอง เพราะงานไม่เคยรักเราครับ ที่สำคัญต้องรู้จักการจัดการชีวิตตัวเองให้เหมาะสม ไม่ทำงานหนักเกินไป ให้เวลากับการพักผ่อน และเวลาทำงานก็ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ้างด้วยการไม่ทำงานท่าเดียวนานเกินไป แต่…ถ้าใครรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นโรคบ้างานอยู่ล่ะก็ นอกจากวิธีที่เราแนะนำแล้ว อีกวิธีคือรีบไปพบแพทย์โดยด่วนครับ รักษาให้ถูกวิธีก่อนจะสาย…เกินแก้ดีกว่า

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

7 เทคนิคการสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุ

  [caption id="attachment_126525" align="alignnone" width="783"] ภาพ via ihome108.com[/caption] ประเทศไทยกับสังคมผู้สูงอายุจะ

อ่านต่อ30 พ.ค. 2559