คอลลิเออร์สฯ ระบุ 3 ตลาดหลัก พื้นที่ค้าปลีก-อาคารสำนักงาน-คอนโด ยังมีการเติบโตและลงทุนอย่างต่อเนื่อง ชี้กม.ภาษีที่ดินฯใหม่ บีบแลนด์ลอร์ด 50 ตระกูลดังเร่ขายที่ดินดิบ – เร่งสร้างโครงการเร็วขึ้น
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยถึงกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีผลบังคับใช้ต้นปี 2560 นั้น โดยส่วนตัวมองว่าช่วยกระจายการถือครองที่ดินเพราะจะมีการนำที่ดินออกมาขายมากขึ้นในราคาที่สามารถต่อรองกันได้ ทั้งนี้ส่วนของรายใหญ่อาจจะไม่กระทบมากนัก เพราะมีบริษัทลูกและมีแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง แถมยังเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเร็วขึ้นด้วยซ้ำ
ปัจจุบันพบว่า 50 ตระกูลใหญ่มีการถือครองที่ดินถึง 30-40% ของภาพรวมทั้งประเทศอย่างไรก็ดีราคาที่ดินยังคงมีปรับขึ้นแต่ไม่มากกว่าที่ผ่านมาที่ปรับขึ้นเฉลี่ยที่กว่า 20% แต่มาปีนี้คาดว่าจะปรับขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 10% โดยย่านที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากยังคงเป็นย่านแนวรถไฟฟ้าเส้นสุขุมวิท ส่วนพื้นที่ 5 ทำเลฮอตฮิต ที่ราคาที่ดินดิบยังคงปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง คือชิดลม ราคาอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทต่อตร.ว.,นานา ราคา 1.7 ล้านบาทต่อตร.ว.,พร้อมพงษ์ ราคา 1.4 ล้านบาทต่อตร.ว.,ทองหล่อ และเพลินจิต ราคา 1. 5ล้านบาทต่อตร.ว. ล่าสุดมีบิ๊กแบรนด์ซื้อที่ดินดิบย่านสุขุมวิท ซอย 12 ในราคาตารางวาละ 2 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการในอนาคตด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าช่วงที่เศรษฐกิจชะลอ ตลาดที่ยังมีการลงทุนและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ พื้นที่ค้าปลีก ,อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม โดยในส่วนของพื้นที่ค้าปลีกนั้นผู้ประกอบการมองว่าเป็นการลงทุนและสามารถสร้างรายได้-กำไรในระยะยาว ทั้งนี้พื้นที่รวมค้าปลีกในกรุงเทพฯและพื้นที่โดยรอบช่วงไตรมาส 2/2559 อยู่ที่ 7.48 ล้านตร.ม. โดยพื้นที่ 62,384 ตร.ม.เปิดให้บริการแล้วในครึ่งปีแรกและอีกมากกว่า124,800 ตร.ม.มีแผนจะเปิดในครึ่งหลังปี แม้จะมีโครงการเปิดให้บริการมากแต่อัตราการเช่าเฉลี่ยในทุกทำเลของกรุงเทพฯยังคงมากกว่า 95% ขึ้นไป
ส่วนตลาดอาคารสำนักงานนั้น พบว่ามีการขยายตัวมากขึ้นในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของอาคารสำนักงานที่เปิดให้บริการใหม่ หลายอาคารทำงห้พื้นที่รวมของอาคารสำนักงานในกรุงเทพเพิ่มขึ้นไปถึง 8.33 ล้านตารางเมตร โดยในช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 เป็นต้นมาถึงไตรมาส 2/59 มีอาคารสำนักงานสร้างเสร็จเปิดให้บริการรวม 266,000 ตร.ม. และจะเปิดเพิ่มอีกมากกว่า152,000 ตร.ม ซึ่งจะมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีหลัง 59 นี้ และมีพื้นที่อีกไม่ต่ำกว่า300,000ตร.ม.อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปี2560–2564 สอดรับกับความต้องการเช่าอาคารสำนักงานที่มีเพิ่มขึ้นทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ ส่งผลให้ราคาค่าเช่ามีการปรับขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันราคาค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 650 – 700 บาทต่อตารางเมตร ส่วนอาคารสำนักงานที่มีค่าเช่าแพงสุดอยู่ที่ตารางเมตรละ 1,200 – 1,300 บาท คือ อาคารสำนักงานเกสร พลาซ่า อย่างไรก็ดี ค่าเช่าอาคารสำนักงานต่อปีเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 % ขณะที่อาคารสำนักงานตามแนวรถไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10%
ฟากตลาดคอนโดมิเนียมนั้นมีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องแม้จะในอัตราที่ลดลงโดยภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงที่ผ่านมาว่าตั้งแต่ต้นปีถึงไตรมาส 2/59 มีคอนโดเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯประมาณ 7,100 ยูนิตลดลงจากไตรมาส 1/59 ประมาณ 3% ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ใหม่กลับพุ่งขึ้นโดยไตรมาส 3/59 ในกทม.มียอดโอนเกือบ 12,000 ยูนิต และปริมณฑลเกือบ 10,000 ยูนิต
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดคอนโดในช่วงครึ่งหลังของ ปี2559นั้น ผู้ประกอบการหลายรายยังคงพัฒนาโครงการใหม่ตามแผนคาดว่าคอนโดที่จะเปิดขายใหม่มีจำนวนมากกว่าช่วงปีครึ่งแรกโดยอยู่ที่ 35,000 – 40,000 หน่วยขึ้นไปโดยผู้ประกอบการจะจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงขึ้นโดยเฉพาะระดับราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป เพราะว่าลูกค้าระดับล่างจำนวนไม่น้อยมีปัญหาในเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์ โดยปีนี้สัดส่วนระดับราคา 3-5 ล้านบาทมีมากสุดถึง 60% ระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปมี 25% และล้านเศษๆอยู่ที่ 15% อย่างไรก็ดีมองว่าตลาดคอนโดปีนี้จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 5%
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
