มีผลบังคับใช้แล้ว! พ.ร.บ ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 กำหนดโทษหนักความผิดทางอาญา จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ประชารัฐร่วมใจ หยุดการขอทาน” เพื่อสร้างความเข้าใจ พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ซึ่งมีผลบังคับใช้เป็นวันแรก ซึ่งมีผู้บริหาร พม. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา บุคลากรและอาสาสมัคร พม.ภาคกลางและตะวันออกเฉียงเหนือ ทหาร ตำรวจ นักเรียน ตลอดจนประชาชนกว่า 1,500 คนเข้าร่วมรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมการขอทานแก่หน่วยงานและประชาชน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อร่วมหยุดปัญหาการขอทาน การแสวงหาประโยชน์และการค้ามนุษย์ โดยได้แนะนำแนวคิดการให้ทานถูกวิธี ลดวิธีการขอทาน ด้วยการไม่ให้เงินโดยตรงกับขอทาน เพราะยิ่งให้ก็เหมือนยิ่งส่งเสริมให้เขามาขอทานเพิ่มขึ้น แต่ให้โดยอ้อมได้ด้วยบริจาคผ่านกองทุนเพื่อพัฒนาคนไร้ที่พึ่ง-คนขอทาน เพื่อนำไปสนับสนุนการฝึกอาชีพ การรับซื้อผลิตภัณฑ์ และเป็นทุนประกอบอาชีพ
สำหรับกฎหมายควบคุมการขอทานนั้น ได้กำหนดความผิดทางอาญาแก่ผู้แสวงหาประโยชน์จากการขอทาน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ถ้ากระทำต่อหญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือเจ็บป่วยโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กระทั่งตัวขอทานที่ต้องเข้ารับการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตในสถานคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิต หากออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังมีการแยกผู้แสดงความสามารถออกจากผู้ทำการขอทาน โดยให้มีการแจ้งต่อพนักงานท้องถิ่นตามที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม เป็นการจัดระเบียบขอทาน เพื่อทำให้ยอดคนขอทานลดน้อยลงเรื่อยๆ สังคมไทยก็จะดีขึ้น ซึ่งภาคประชาชนต้องร่วมมือกัน หากพบเห็นคนขอทานและคนไร้ที่พึ่งสามารถแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
ล่าสุด รมว.พม.ได้ลงพื้นที่จ.นครราชสีมาเพื่อร่วมรณรงค์ หลังจากพบว่า เป็นจังหวัดใหญ่แต่มีขอทานน้อยมาก กระทั่งลานย่าโมที่เป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาก ก็แทบไม่พบคนขอทานเลย ส่วนที่พบจะเป็นคนยากจนจากจังหวัดใกล้เคียง และขอทานต่างด้าวจากกัมพูชา ส่วนคนในพื้นที่ไม่พบมีใครมาขอทานเลย อาจเพราะความรู้สึกเขินอายและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่แม้จะมีจำนวนน้อยทางจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เรามีชุดเฝ้าระวังตามชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดต่างๆ เดินตรวจตราเป็นระยะ และยังมีภาคประชาชนคอยช่วยสอดส่องดูแล
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com