ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ข้ามฟากลุยพัฒนาคอนโดมิเนียมย่านลำลูกกาคลอง 2 ชูราคาขายถูกกว่าคู่แข่ง 20% ตั้งเป้าพิชิตรายได้โตก้าวกระโดดปี 61 พุ่ง 3,000 ล้านบาท
นายธนากร ธนวรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนของบริษัทว่าจะมีขยายการพัฒนาโครงการในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด และเพื่อเป็นการรองรับแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ทางบริษัทได้วางแผนเปิดโครงการใหม่ต่อปีรวมมูลค่าโครงการประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนโครงการแนวราบ 30% และอีก 70% จะเป็นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม รวมทั้ง โครงการให้เช่า เบื้องต้นมองตลาดเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ หรือโรงแรมในเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต ด้วย เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง
สำหรับงบการซื้อที่ดินในปีนี้ วางไว้ 1,200 ล้านบาท ปัจจุบันได้ใช้ซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปีนี้และในปีถัดไปหมดแล้ว ขณะที่ปี 2560 นั้น ทางบริษัทก็ได้เตรียมงบเพื่อซื้อที่ดินเพิ่มอีก 1,500 ล้านบาท
โดยล่าสุดบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ “ดิเอ็กเซล คูคต ลำลูกกาคลอง 2″เป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น บนพื่นที่กว่า 5 ไร่ จำนวน 3 อาคาร จำนวน 581 ยูนิต เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 – 35 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 950,000 – 1.35 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 700 ล้านบาท โดยจะเปิดขายอย่างเป็นทางการวันที่ 17 ก.ย.นี้ ซึ่งในขณะนี้มีผู้สนใจลงทะเบียนจองล่วงหน้าแล้ว 500 กว่าราย บางส่วนจองสิทธิ์พร้อมจ่ายเงินจองแล้ว 100 ราย คาดว่าในวันเปิดขายอย่างเป็นทางการนั้น จะมียอดจองเข้ามาไม่ต่ำกว่า 70% ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้าง และอยู่ระหว่างจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือ อีไอเอ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในต้นปี 2560 และคาดว่าแล้วเสร็จได้ภายในปี 2561
ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ต้นๆ ถนนลำลูกกา ในอนาคตโครงการจะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าคูคต คลอง 2 และ จุด Park and Ride ของโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วย จากเดิมพื้นที่โซนนี้เป็นเขตที่ มีหมู่บ้านจัดสรร โรงงาน แต่ในปัจจุบันมีความเติบโตขึ้นอย่างมากจากการขยายตัวของเมือง เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นบ้าง แต่ยังมีเพียงไม่กี่ราย ปัจจุบันมีรายใหญ่เข้าไปทำโครงการบ้าง แต่ขายหมดแล้ว ซึ่งราคาขายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านบาท แต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ถือได้ว่าโครงการของเราเป็นรายแรก ๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบในราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขณะที่ตลาดปล่อยเช่าในย่านนี้โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาทต่อเดือน
พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า ในช่วงปลายปีนี้ ทางบริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 2- 3 โครงการ หนึ่งในนั้น เป็นโครงการแนวราบซึ่งเป็นการพัฒนาครั้งแรกของบริษัท เป็นทาวน์โฮมใหม่ 3 ชั้น บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ทำเลเกษตรนวมินทร์ หน้ากว้าง 5 เมตร ขนาดที่ดิน 25 – 27 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 160-170 ตร.ม.มูลค่า 450 ล้านบาท ราคาขายประมาณ 3 ล้านต้นๆ และโครงการ ดิ เอ็กซ์เซล อุดมสุข คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 228 ยูนิต มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการลรายละเอียดโครงการ คาดว่าราคาเปิดจะเริ่มราว 990,000 บาท และโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ จำนวน 4 ตึก ย่านพระราม 9 บนเนื้อที่ 6 ไร่ ราคาต่อตารางเมตรจะอยู่ที่ 70,000 – 80,000 บาท
“แม้ว่าเราจะเป็นบริษัทเล็กๆ ก็ตาม แต่เรามีกลยุทธ์การบริหารเรื่องต้นทุนก่อสร้างได้ดี มีทีมที่มีประสบการณ์ทางด้านอสังหาริมทรัพย์มากว่า 20 ปี ประกอบกับเราสามารถซื้อที่ดินกับเจ้าของได้โดยตรง ทำให้ได้ราคาที่ดินถูกกว่า 30% และการเลือกทำเลในการพัฒนาโครงการจะเข้าไปเป็นรายแรกในทำเลนั้นๆ ทำให้ขายราคาถูกกว่าตลาด 20% เช่น ทำเลคลองหลวง ลำลูกกา เป็นสถานีปลายทางของสายสีเขียว (สถานีคลอง 2) ปัจจุบันราคาทีดินเสนอขายย่านลำลูกกาอยู่ที่ 1 แสนบาทต่อตร.ว. มีการปรับเพิ่มขึ้นมา 100% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
ทั้งนี้ ส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามเป้าที่ได้วางไว้ ปัจจุบันได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 410 ล้านบาท โดยมีการเปิดโครงการอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งวางแผนด้านการรับรู้ รายได้อย่างเป็นระบบผลประกอบการปี 2558 บริษัทมีรายได้ 100 ล้านบาท ปี 2559 ตั้งเป้ารายได้ 200 ล้านบาท ปี 2560 ตั้งเป้าหมายประมาณการรายได้ก้าวกระโดดเป็น 1,500 ล้านบาท ปี 2561 เป้าหมายรายได้จะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com