มิติใหม่รถไฟรุ่นใหม่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่เปิดเส้นทางแรกต.คนี้

30 ส.ค. 2559

พลิกโฉมประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการรถไฟฯ เปิดเดินรถเที่ยวปฐมฤกษ์ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครปฐม และเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ พร้อมเปิดบริการเดือนตุลาคมนี้

นายอาคม กล่าวว่า การจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน 115 คัน ของการรถไฟฯ สอดคล้องกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟฯ วงเงินลงทุน 176,806.28 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 วงเงินลงทุน 4,981.05 ล้านบาท และที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้มีพิธีรับมอบรถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์รอบแรก 39 คัน จากทั้งหมด 115 คัน จากบริษัท CRRC (China Railway Rolling Stock Corporation) หรือ CRC (Changchun Railway Vehicles Company Limited) บริษัทคู่สัญญา เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา และมีการทดสอบการเดินรถทั้งระยะใกล้และระยะไกลมากว่า 1 เดือน ก่อนจะนำมาเปิดให้บริการเป็นขบวนรถด่วนพิเศษ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้เป็นเส้นทางแรกในเดือนตุลาคม 2559

สำหรับการเปิดการเดินรถโดยสารชุดใหม่ เที่ยวปฐมฤกษ์ ในวันนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของการรถไฟฯ ที่มีการเริ่มเปลี่ยนแปลงและพลิกโฉมประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการรถไฟฯ ตามนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงคมนาคม ถือเป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาระบบรางของประเทศให้มีความสมบูรณ์และส่งผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศชาติ และในอนาคตการรถไฟฯ จะพัฒนาองค์กรไปอย่างก้าวกระโดด ทั้งในส่วนของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบรางอย่างจริงจัง เพราะทุกฝ่ายต่างให้ความสำคัญและเล็งเห็นตรงกันว่า ถ้าระบบรางมีความสมบูรณ์สามารถขยายระบบทางคู่ให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้ จะสามารถตอบโจทย์ของการขนส่ง แก้ไขปัญหาเรื่องการจราจร และจากยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ จะช่วยยกระดับการขนส่งทางรถไฟ ให้มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว และประหยัดต้นทุน ทำให้การขนส่งระบบรางกลับมาเป็นทางเลือกสำคัญของประชาชนคนไทยอีกครั้ง

ขณะที่ นายวุฒิชาติ กล่าวเสริมว่า รถโดยสารชุดใหม่นี้ เป็นความภาคภูมิใจของคนรถไฟ เนื่องจากการรถไฟฯ ไม่มีการจัดหารถโดยสารใหม่ มากว่า 20 ปี ที่ผ่านมา ดังนั้นการดำเนินการจัดหารถ การให้บริการรถโดยสารใหม่ชุดนี้ จึงถือเป็นย่างก้าวสำคัญของการรถไฟฯ ในการเปลี่ยนแปลงการให้บริการรถโดยสารให้ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย รถไฟขบวนพิเศษแต่ละเที่ยวนี้จะประกอบไปด้วยรถ Power Car ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟให้รถโดยสาร ทั้งขบวน จำนวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอน ชั้นที่ 2 จำนวน 9 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอน ชั้น 2 สำหรับผู้โดยสารที่ใช้รถวีลแชร์ จำนวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอน ชั้น 1 ระดับเฟิสต์คลาส จำนวน 1 คัน และรถขายอาหารปรับอากาศ จำนวน 1 คัน ภายในรถมีระบบการทำงานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ติดตั้งระบบสัญญาณ Wi-Fi ติดตั้งจอแอลอีดี เพื่อใช้เป็นช่องทางแจ้งข้อมูลข่าวสารพร้อมเครื่องขยายเสียง ปุ่มเรียกพนักงานฉุกเฉิน ห้องอาบน้ำ ปรับปรุงห้องสุขาใหม่ให้มีระบบเก็บสิ่งปฏิกูล เป็นต้น ขบวนรถนี้ สามารถวิ่งทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหากใช้ทางคู่กับโครงการรถไฟทางคู่ที่แล้วเสร็จ จะสามารถเดินทางสู่จุดหมายปลายทางได้เร็วขึ้น 3 ชั่วโมง

ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะนำขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่มาวิ่งเป็นขบวนรถด่วนพิเศษใน 4 เส้นทาง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ–เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี กรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-ชุมทางหาดใหญ่ ไป/กลับวันละ 2 ขบวนต่อวัน รวม 8 ขบวน ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ ประมาณ 0.9 ล้านคนต่อปี มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 785.1 ล้านบาท (ปีที่ 1) อายุโครงการ 25 ปี

train 3 (1)

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ตลาดรับสร้างบ้านราคาแพงมาแรง

สมาคมรับสร้างบ้าน สรุปตัวเลข “งานมหกรรมรับสร้างบ้าน”ลูกค้าแห่จองสร้า

อ่านต่อ29 ส.ค. 2559

เอกชนลุ้นระทึกชิงรางวัล “ออสการ์”แห่งอสังหาฯ ไทย

โค้งสุดท้ายก่อนตัดสินผู้เข้าชิงรางวัล ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ด 2016

อ่านต่อ29 ส.ค. 2559