เจเอเอส แอสเซ็ท ขยายไลน์ธุรกิจเพิ่ม พร้อมชิมลางปั้นคอนโดโลว์ไรซ์ย่านรามอินทรา มูลค่า 500 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมเปิดคอมมูนีตี้มอลล์แห่งที่ 3 “แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์” ลั่นคนแห่เช่าพื้นที่ขายแล้ว 95% พร้อมเปิดให้บริการภายในปลายปีนี้
นายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ (J) เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีแผนนำสินทรัพย์ 2 โครงการ คือ The Jas วังหิน และ The Jas รามอินทรา จัดตั้งเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่าราว 500 ล้านบาทต่อกอง เพื่อระดมทุนไปใช้พัฒนาโครงการใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาที่ปรึกษามีมาคุย 2-3 ราย ทั้งนี้หากได้ข้อสรุปก็เตรียมจะตัดตั้งภายในต้นปีหน้า อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดจะมีราว 2 ธุรกิจที่จะชัดเจนในไตรมาส3/59
“กำลังซื้อในธุรกิจค้าปลีกช่วงนี้ค่อยไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่คอมมูนิตี้มอลล์ต้องใช้เวลาปลุกปั่นอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป ถึงจะเข้าที่เข้าทาง แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 และ 4 แนวโน้มน่าจะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก ทั้งนี้ ทางบริษัทมั่นใจรายได้และกำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากการขยายสาขาทั้ง IT Junction ,ศูนย์การค้าชุมชน Tha Jas และตลาดชุมชน J Market อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยังมีแผนเข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า หรือเช่าพื้นที่มาบริหาร คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้
ทั้งนี้ บริษัทฯยังมีแผนขยายสาขา IT Junction อย่างต่อเนื่องที่คาดปีนี้จะมีทั้งสิ้น 55 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 48 สาขา และ ศูนย์การค้าชุมชน (The Jas) จะอยู่ที่ 3 สาขา โดยแบ่งเป็น The Jas วังหิน มีอัตราการเช่าแล้ว 95% มีพื้นที่ขาย 5,000 ตารางเมตร ส่วน The Jas รามอินทรา เป็นที่ดินเช่าระยะยาว 30 ปี พื้นที่ขาย 12,000 ตารางเมตร ซึ่งมีอัตราการเช่าแล้วมากกว่า 90% คาดว่าจะครบ 100% ได้ในปีนี้
ล่าสุด เปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ โดยใช้งบลงทุน 600 ล้านบาท เนื้อที่ 11 ไร่ มีพื้นที่ขาย 17,000 ตารางเมตร เป็นอาคารรีเทล 3 ชั้น และชั้นจอดรถใต้ดิน 1 ชั้น สามารถจอดรถได้ 450 คัน โดยจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ ปัจจุบันได้เปิด พรีเซลแล้ว และสามารถเปิดขายพื้นที่ไปได้แล้วกว่า 95% ปัจจุบันค่าเช่าเริ่มที่ 800 บาทต่อตารางเมตร โดยมีร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไดร์ฟทรู พื้นที่ 400 ตารางเมตร Round Table by Chef Man เป็นต้น คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ครบ 100% ก่อนเปิดโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ ยังได้ขออนุมัติเพิ่มวงเงินจากบอร์ดเพื่อใช้งบลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท จากเดิมวางไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยจะใช้ในการขยายสาขา ขณะเดียวกันมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการเพิ่ม และขยายคอมมูนีตี้มอลล์เพิ่มอีก 1 สาขาในปีหน้าด้วย อาจจะเป็นโซนรังสิต แจ้งวัฒนะ หรือราชพฤกษ์ ซึ่งจะมองถึงศักยภาพของทำเลนั้นๆเป็นหลัก ที่สำคัญต้องใกล้แห่งชุมชน นอกจะยังแบ่งบางส่วนซื้อที่ดินเพื่อต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งขณะอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดการพัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ 8 ชั้น ย่านรามอินทรา มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดทางร่วมทุนกับพันธมิตรธุรกิจ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มธุรกิจคอมมูนีตี้ 2 ราย ซึ่งแต่ละรายมีคอมมูนีตี้เฉลี่ย 3 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 – 3 เดือนว่าจะทำหรือไม่ทำ
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com