มหาเศรษฐีโลกแนะ อยากรวยขึ้นควรทำตัวต่อไปนี้

chaiyasit bunnag12 ก.ย. 2559

Carlos Slim Helu หรือ การ์โลส สลิม ที่เราคุ้นหูกันว่าคือมหาเศรษฐีธุรกิจโทรคมนาคมผู้รวยติดท็อปของโลกมาตลอด แต่เราเคยทราบหรือไม่ว่าเขาทำตัวประหยัดมากกว่าเราที่เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาแต่กลับใช้เงินราวกับเป็นเศรษฐีเสียอีก เขารวยแค่ไหน? จากการบันทึกของ Forbes ทรัพย์สินรวมของเขามีถึงหกหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (สองล้านล้านบาท) หรือเขาสามารถใช้เงินได้นาทีละ 30,000 บาทแบบนี้ไปอีกร้อยปีก็ยังได้ พูดได้อีกอย่างหนึ่งคือ หากเขาใช้เงินจำนวนนี้ 10 นาที (300,000 บาท) จะมากกว่ารายได้รวมทั้งปีของเหล่ามนุษย์เงินเดือนหลายๆคนเสียอีก

จริงอยู่ที่เศรษฐีพันล้านมีเงินใช้เท่าไรก็ไม่หมด แต่หลายคนก็เลือกใช้ชีวิตสมรรถะ สำหรับคนอีกเกือบ 7 พันล้านคนทั่วโลกที่ยังไม่ใช่เศรษฐียังอาจจะมีไลฟ์สไตล์ฟุ่มเฟือย แต่ใครจะรู้ล่ะว่าคุณอาจจะกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีสถานะว่า “รวย” ก็เป็นได้ เพียงเริ่มทำตามคำแนะนำวิธีการใช้เงินจากเศรษฐีที่ใช้จ่ายแบบคนธรรมดา เศรษฐีแต่ละท่านจะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกันเลย

เลือกบ้านสำหรับเพื่ออยู่อาศัยไม่ใช่อวดโชว์

หลายคนเมื่อทำงานอยู่ในฐานะที่มีระดับเงินเดือนดีเฝ้าบอกกับตัวเองว่าอยากจะหารางวัลชีวิตให้กับตัวเองโดยการเลือกผ่อนบ้านราคาเกินตัวซักหลังเพื่อเป็นที่เชิดหน้าชูตาในสายตาเพื่อนๆและเครือญาติ แต่รู้ไหมว่าความโก้ของคุณต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง ความเหน็ดเหนื่อยในการผ่อนนั่นเอง หลายคนติดกับวัฒนธรรมคำพูดจาจากผู้ใหญ่หรือเพื่อนๆ (ที่ไม่หวังดี) ว่า “เมื่อไรจะซื้อรถซื้อบ้านสักที” อย่าลืมนะครับถ้าคุณอยากซื้อบ้านหรือรถ (ผ่านการผ่อน) เพียงแค่ต้องการลบคำสบประมาทอย่าทำครับ เพราะคนเหล่านี้เขาไม่ได้มารับผิดชอบร่วมการผ่อนกับคุณ คุณอาจจะดูโก้ขึ้นมา ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่จำนวนเงินผ่อนเกินตัวในแต่ละงวดอาจแปลงมาเป็นเงินลงทุนที่สามารถสร้างผลกำไรในอนาคตได้ ดังนั้นหากฐานเงินเดือนไม่แข็งแกร่งจริงอย่าเพิ่งคิดการใหญ่เช่นนี้

แม้แต่ Warren Buffett (วอร์เรน บัฟเฟตต์) เองยังเลือกที่จะอยู่อาศัยในบ้านเก่าแก่ที่ซื้อไว้เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ซึ่ง ณ ตอนนั้นราคาไม่ถึงล้าน และปัจจุบันเขาก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ การ์โลส สลิม เองเช่นเดียวกันอยู่อาศัยในบ้านหลังเดิมมานานกว่า 40 ปีแล้ว บ้านหลังเก่าของคุณหรือของคุณพ่อคุณแม่หากอยู่ไม่ไกลเมืองนักเพียงแค่ปรับปรุงซ่อมแซมให้ดูใหม่หรือจะขยายเพิ่มเติมจำนวนห้องรองรับสมาชิกครอบครัวที่เพื่มขึ้นผ่านความรอบคอบในการควบคุมงบประมาณของคุณอาจจะเพียงพอแล้วสำหรับคำว่าอยู่อาศัยแทนที่จะเป็นหนี้ระยะยาว

หากคุณมีแผนการเงินที่ดีและกำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ อ่านรีวิวโครงการใหม่ของเราได้ที่นี่

การ์โลส สลิม

การ์โลส สลิม (ภาพ via: http://blogs-images.forbes.com/)

วอร์เรน บัฟเฟตต์

วอร์เรน บัฟเฟตต์ (ภาพ via: http://www.investwithalex.com/)

ไม่มีรถไม่ใช่ปัญหา ขนส่งมวลชนช่วยได้

John Caudwell (จอห์น คูดเวล) นักธุรกิจเจ้าพ่อค้าปลีกชาวอังกฤษ, David Cheriton (เดวิด เชอริตัน) เศรษฐีผู้มากบทบาทผู้เป็นทั้ง นักคอมพิวเตอร์, นักคณิตศาสตร์, นักลงทุน และนักคิดค้นให้กับ Google ปัจจุบันสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ซานฟรานซิสโก และ Chuck Feeney (ชัก ฟีนีย์) เศรษฐีสัญชาติไอริช – อเมริกัน ผู้คิดค้นธุรกิจประเภท duty-free shop ทั้งสามท่านที่กล่าวมานี้ปัจจุบันชอบการเดินทางไปไหนมาไหนในเมืองด้วยจักรยานหรือระบบขนส่งมวลชนมากกว่าใช้เฮลิคอปเตอร์หรือรถเบนท์ลีย์ที่มีโชเฟอร์ส่วนตัว พวกเขาเหล่านี้ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าวิธีดังกล่าวช่วยทั้งเรื่องสุขภาพของตนและช่วยลดมลภาวะแก่สังคมอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นมิตรต่อเงินออมในบัญชีเงินเก็บของคุณ

จอห์น คูดเวล

จอห์น คูดเวล (ภาพ via: http://cdn.images.express.co.uk/)

เดวิด เชอริตัน

เดวิด เชอริตัน (ภาพ via: https://si.wsj.net)

ชัก ฟีนีย์

ชัก ฟีนีย์ (ภาพ via: http://blogs-images.forbes.com/)

เสื้อผ้าอาภรณ์เอาแค่พอดี

มนุษย์เงินเดือนหลายๆราย หมดเงินไปกับเสื้อผ้าหลายพันต่อเดือน แต่ในความคิดของนักลงทุนเขาคิดไปถึงยอดสะสมเป็นปี สมมติค่าเฉลี่ยซื้อเสื้อผ้าของคุณอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน หนึ่งปีคุณจะหมดเงินไปกับเสื้อผ้า 24,000 บาท!! สำหรับนักลงทุนพวกเขามองว่ามันสามารถเป็นเงินก้อนที่สามารถนำไปลงทุนเพื่อหวังผลกำไรได้เลยนะครับ คุณไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าไม่ซ้ำกันในแต่ละวันจริงไหมครับ

เดวิด เชอริตัน คนเดิม เพิ่มเติมคือบทบาทที่คุณยังไม่รู้คือเขาเป็นคนช่วยนำพาสองคู่หูผู้ก่อตั้งกูเกิ้ล Sergey Brin (เซอร์เกย์ บริน) และ Larry Page (แลร์รี่ เพจ) เข้าสู่ขั้นตอนขอระดมทุนจากบริษัทเงินทุนใหญ่ต่างๆซึ่งบริษัทเหล่านั้นก็ได้ผลตอบแทนมหาศาลไปเรียบร้อยแล้วจากความยิ่งใหญ่ของกูเกิ้ลปัจจุบัน อาจารย์ประจำแสตนฟอร์ดผู้นี้ยังคงเลือกใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ไปสอนนักศึกษาระดับหัวกะทิในมหาวิทยาลัยท็อปโลก สไตล์การแต่งตัวนี้สามารถเห็นได้จาก Mark Zuckerburk (มารก์ ซักเคอร์เบิร์ก) ผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊คเช่นเดียวกัน หรือแม้แต่เจ้าพ่อเฟอร์นิเจอร์ Ingvar Kampard (อิงค์วาร์ แคมปราด) ผู้ก่อตั้งอิเกียก็ยังยึดถือในการแต่งตัวแบบเรียบง่ายเช่นนี้ ในขณะที่มนุษย์เงินเดือนบางคนแบรนด์เนมทั้งตัวแต่เงินออมไม่มีเหลือเลยในบัญชี

เซอร์เกย์ บริน (ซ้าย) และ แลร์รี่ เพจ (ขวา)

เซอร์เกย์ บริน (ซ้าย) และ แลร์รี่ เพจ (ขวา) (ภาพ via: http://successpenpal.com/)

อิงค์วาร์ แคมปราด

อิงค์วาร์ แคมปราด (ภาพ via: http://wp.jsstatic.com/)

มารก์ ซักเคอร์เบิร์ก (ภาพ via: http://www.digitiser2000.com/)

มารก์ ซักเคอร์เบิร์ก (ภาพ via: http://www.digitiser2000.com/)

รถส่วนตัวเน้นใช้งานไม่ใช่โชว์

มนุษย์เงินเดือนเปลี่ยนรถเป็นว่าเล่นผ่อนคันเก่าเสร็จปุ๊ปก็ดาวน์รถใหม่ทันทีรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นหนี้ให้กับรถยนต์ 10 ปี ยังไม่รวมภาระหนี้ผ่อนบ้านที่อยากมีอีก 30 ปีนะครับ ซื้อรถครั้งเดียวแต่ใช้ให้คุ้มเลยดีกว่าอย่าง Toyota รุ่นต่างๆที่เครื่องไม่เกิน 1,500 CC มือสองราคาไม่ถึง 200,000 บาท ถือเป็นตัวเลือกที่ดีและทนทานการใช้งานต่อไปได้อีกเป็นสิบปี (ตรวจสภาพรถสม่ำเสมอด้วยนะครับ) ราคานี้ผ่อนสบายๆไม่เดือดร้อนรายได้มากด้วย Jim Walton (จิม วัลตัน) สมาชิกหนึ่งในตระกูลธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Walmart ยังเลือกใช้ปิ๊กอัพคู่ใจมาเกือบ 20 ปีแล้ว หรือจะเป็น Azim Premji เศรษฐีภารตะที่ยังเลือกใช้ Toyota Corolla ที่ขับดีและคงทนอยู่ รวมถึงอิงค์วาร์จากอิเกียที่ขับวอลโว่คันเดิมมาเป็นสิบๆปี รถยนต์ที่ใช้งานทนทานและพาไปถึงจุดหมายได้ก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขา

1372358328007-XXX-IMG-6337-1306271500_4_3

รถกระบะคู่บุญของ จิม วัลตัน (ภาพ via: http://www.gannett-cdn.com/)

โตโยต้า โคโรลลา ของ Azim Premji

โตโยต้า โคโรลลา ของ Azim Premji (ภาพ via: http://www.drivespark.com/)

มองข้ามของหรูหรา

อาจจะเซอร์ไพรส์ใครหลายๆคนที่ว่าเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก การ์โลส สลิม ไม่ซื้อทั้งเครื่องบินส่วนตัวหรือเรือยอร์ชเสริมบารมี การ์โลสบอกว่าเงินก้อนที่ใช้ซื้อของฟุ่มเฟือยเหล่านั้นเขาสามารถเข้าไปลงทุนในบริษัทอื่นๆได้สบายๆซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนในภายหลังได้อีกด้วย ตรงกันข้ามกับของเล่นใหญ่เหล่านั้นที่นับวันจะมีแต่เสื่อมมูลค่าลง “ลดรายจ่ายลง = เงินเก็บมากขึ้น” คือคติง่ายๆที่เศรษฐีหลายคนเลือกใช้จนทำให้เขารวย วอร์เรน บัฟเฟตต์ เช่นเดียวกันมองว่า “สิ่งของฟุ่มเฟือยราคาแพงมีไว้ก็มีแต่สร้างความปวดหัว”

วิธีมัธยัสถ์ต่างๆที่กล่าวไปคือชีวิตจริงของเศรษฐีเหล่านี้และเป็นไปได้ว่าความคิดเช่นนี้นำพาพวกเขามาถึงจุดนี้ได้ ไม่ว่าคุณจะมีรายได้ต่อเดือนเท่าไรสิ่งที่จะทำให้คุณเหลือกินเหลือใช้ในแต่ละเดือนได้มากขึ้นคือการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและเก็บออมให้มากขึ้นนั่นเอง หลายองค์กรที่ล้มละลายหรือบุคคลล้มละลายหลายคนสยบให้แก่คำสั้นๆคำเดียวนั่นคือ “หนี้” มาแล้ว หากไม่วางแผนหรือรอบคอบ อย่าสร้างคำๆนี้ให้แก่ชีวิตคุณเลยจะดีกว่าครับ

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวบทความสามารถติดต่อได้โดยตรงที่ chaiyasit@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ก้าวแรกสู่การมีเงินล้าน เริ่มจากแค่หยอดกระปุก!

เงินล้านอาจดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายคน แต่พพยายามอยู่ที่ไหน ความส

อ่านต่อ30 เม.ย. 2559