นวัตกรรม “Digital Community” จะเปลี่ยนชีวิตและไลฟ์สไตล์คนเมือง ตามไปดู! ครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา” ซุปเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น ราคาเริ่ม 25 ล้านบาท
นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP เปิดเผยถึงในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวโครงการแนวราบไปแล้วจำนวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,550ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยว 4 โครงการ มูลค่า 4,010 ล้านบาท และทาวน์โฮม 4 โครงการ มูลค่า 2,540 ล้านบาท และบริษัทมั่นใจว่ายอดขายรวมของบริษัทในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 31,000 ล้านบาท โดยยอดขายรวมถึงวันที่ 15 ก.ย. 59 บริษัททำได้แล้ว 18,739 ล้านบาท
สำหรับช่วงเวลาที่เหลืออีก 4 เดือนของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 59) ทางบริษัทได้เตรียมเปิดโครงการแนวราบที่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวอีก 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,400 ล้านบาท ประกอบกับยังมีโครงการแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายอีกกว่า 58 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 21,622 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่ายอดขายโครงการแนวราบทั้งปีจะเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน
โดยเป้ายอดขายในปีนี้ ตั้งไว้ที่ 14,500ล้านบาท หลังจากยอดขายโครงการแนวราบล่าสุดถึงวันที่ 15 ก.ย. 59 ทำได้ 9,745 ล้านบาท ขณะที่เป้ารายได้ของโครงการแนวราบในปีนี้ตั้งไว้ 13,800 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้แล้วอยู่ที่ 6,148 ล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทมีโครงการแนวราบที่รอรับรู้รายได้อีก 5,685 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้ทั้งหมด
ล่าสุด บ้านเดี่ยวหรูระดับซูปเปอร์ลักชัวร์รี่วิลล่า “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา” มูลค่าโครงการ 2,560 ล้านบาท บนเนื้อที่โครงการทั้งหมด 32.3 ไร่ ตั้งอยู่ถนนสุคนธสวัสดิ์ 19 จำนวนยูนิตทั้งสิ้น 156 ยูนิต โดยแบ่งออกเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 จำนวน 56 ยูนิต บนที่ดิน 25 ไร่ ซึ่งมีกำหนดจะเปิดพรีเซลวันที่ 5-6 พ.ย.นี้ ขนาดที่ดินเริ่ม 52 ตารางวาขึ้นไป ราคาขายที่ 25-35 ล้านบาท ส่วนเฟสที่ 2 จำนวน 100 ยูนิต เป็นบ้านแฝด คาดว่าจะเปิดขายช่วงต้นปี 60
นอกจากนี้ ถือว่าเป็นโครงการแรกและรายแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ได้นำ “Digital Community” เข้ามาใช้ตอบโจทษ์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ในโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของเอพี ผ่านการสอดผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแนวคิด IoT (Internet of Things) ที่ระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถสื่อสารถึงกันได้ด้วย โดยมีเป้าหมายคือช่วยกันทำงาน เพื่อให้รูปแบบการใช้ชีวิตสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเอพีได้วางระบบสมองกลอัจฉริยะไว้เป็นคีย์สำคัญที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกชิ้นภายในบ้านให้สามารถสื่อสารและประมวลผลร่วมกัน รวมถึงการผสานนวัตกรรมระบบสั่งการด้วยเสียง ที่นอกจากจะควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านเสียงแล้ว ระบบนี้ยังทำงานร่วมกับสมองกลอัจฉริยะที่พัฒนาขั้นสูงไปจนถึงคิดคำนวณและตอบโต้กับเจ้าของบ้านได้อีกด้วยหรือระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดมากขึ้น
สำหรับภาพรวมตลาดย่านเอกมัย-รามอินทรา ตลาดที่อยู่อาศัยระดับบนราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป ที่ตั้งอยู่ในเมืองมีจำนวนดีมานด์อยู่ในระดับสูงมาก ในขณะที่มีจำนวนโครงการแนวราบระดับบนที่ตั้งอยู่ในเมืองมีเพียง 3-4 โครงการเท่านั้น ซึ่งยังมีช่องว่างที่เป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการระดับบนที่ยังมีความต้องการ และไม่มีความเสี่ยงในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันโครงการแนวราบของบริษัทไม่มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ ดังนั้นการพัฒนาโครงการแนวราบของบริษัทในระยะต่อไปก็ยังจะเน้นไปที่โครงการในระดับกลาง-บน ราคาขายของโครงการทาว์นเฮาส์ตั้งแต่ 2-6 ล้านบาท และราคาขายของโครงการบ้านเดี่ยวตั้งแต่ 6-12 บาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม มองถึงภาพรวมตลาดแนวราบในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ว่าจะมีการเปิดตัวโครงการของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ออกมาค่อนข้างมาก แต่ถึงกระนั้น ทางเอพีฯ ก็มิได้กังวลกับการแข่งขันที่จะเกิด เพราะเนื่องจากได้มีการ Challenge ตัวเองตลอดเวลา และโครงการแนวราบของ AP ที่จะเปิดในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างทั้งในด้านการออกแบบ การวางพื้นที่ใช้สอยและการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ไนโครงการที่อยู่อาศัยทุกยูนิต เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน และเป็นการสร้างความโดดเด่นให้กับโครงการ ซึ่งเรามองว่าการเปิดโครงการที่เพิ่มขึ้นมากนั้นจะเป็นผลดีในการช่วยกระตุ้นให้ดีมานด์กลับมาเพิ่มขึ้น
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com