จากภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปในปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของไทยเกิดภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จากการสำรวจอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยประจำเดือนพฤศจิกายน 2560 พบว่า มีอัตราสูงขึ้นต่อเนื่องตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2561 ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบ และภาษีสรรพสามิต บุหรี่-เหล้า ที่เพิ่งปรับขึ้นในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
เงินเฟ้อสูงแต่อยู่ในกรอบคาดการณ์
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) เดือนพฤศจิกายน 2560 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายน 2560 สูงขึ้นอยู่ที่ 0.99% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับสูงขึ้น ตามราคาในตลาดโลก จากกลุ่มผู้ผลิตลดกำลังการผลิต และการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต บุหรี่ เบียร์ ไวน์ สุรา ส่วนผักและผลไม้สด ไข่ไก่ เนื้อสุกร ราคาลดลงเนื่องจากมีปริมาณผลผลิตในตลาดสูง ในขณะที่ความต้องการในตลาดเท่าเดิม ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 11 เดือนขยายตัวสูงขึ้น 0.66% ซึ่งอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์ประมาณการอัตราเงินเฟ้อใหม่ทั้งปี 2560 ที่ 0.4-1.0% และอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2561 อยู่ที่ 0.6-1.6%
ระดับราคาสินค้าที่เปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ ที่ทำให้เงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน 2560 สูงขึ้นจากเดือนตุลาคม 2560 ที่ 0.07% มีดังนี้
– กลุ่มพลังงาน สูงขึ้น 1.7% จากน้ำมันเชื้อเพลิง 2.42% (น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด ยกเว้นก๊าซ NGV) จากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ปรับลดลง ส่งผลให้หมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.36%
– อาหารสด ลดลง -1.04% จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ผลผลิตของผักสดและผลไม้เข้าสู่ตลาดมากขึ้นรวมทั้งเนื้อสัตว์ ขณะที่ความต้องการบริโภคคงที่ทำให้ราคาลดลง ได้แก่ ผักคะน้า ผักขึ้นฉ่าย หัวผักกาดขาว ผักกาดหอม กล้วยน้ำว้า ส้มเขียวหวาน มะพร้าวอ่อน เนื้อสุกร ไก่สด ปลาดุก และไข่ไก่ ส่งผลให้หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ลดลง -0.42%
– สินค้าอื่น ๆ ได้แก่ บุหรี่ ปรับสูงขึ้น 0.4% โดยทยอยปรับขึ้นในบางพื้นที่ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ขณะที่สินค้าบางรายที่ปรับลดลง ได้แก่ เบียร์ สุรา เครื่องใช้ไฟฟ้า (ตู้เย็น เตาอบไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า เครื่องรับ
โทรทัศน์) ปรับราคาลดลงจากโปรโมชั่นใกล้สิ้นปี 2560

สรุปเงินเฟ้อพบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายน 2560 สูงขึ้นอยู่ที่ 0.99% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
เงินเฟ้อพุ่งต่อเนื่องถึงปี 61
สอดคล้องกับรายงานของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรืออีไอซี ซึ่งคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2560 และ 2561 จะอยู่ที่ 0.7% และ 1.1% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามลำดับ โดยปัจจัยหลักที่จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นในปี 2561 มาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (น้ำมันดิบที่มีแหล่งผลิตอยู่ในทะเลเหนือ หรือทะเลที่อยู่ระหว่างเกาะอังกฤษและคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย) เฉลี่ยในปี 2561 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ที่ 58 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จาก 54 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปี 2560 ประกอบกับการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสำหรับบุหรี่และสุราที่จะยังคงมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ขณะที่ราคาอาหารสดโดยเฉพาะราคาผักและผลไม้ยังมีแรงกดดันจากผลผลิตทางการเกษตรที่อาจมีปริมาณออกสู่ตลาดจำนวนมาก ตามแนวโน้มสภาพอากาศและ
ปริมาณน้ำที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตใน 2561
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% และ 0.6% ในปี 2560 และ 2561 ตามลำดับ เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ได้ฟื้นตัวชัดเจนนัก โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้มีรายได้ปานกลาง-น้อย ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ จะถูกปรับราคาขึ้นได้อย่างช้า ๆ
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ทิศทางอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปี 2561 จะเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1.1% กรอบประมาณการที่ 0.6-1.5% ส่วนใหญ่จะมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของฝั่งต้นทุนทั้งพลังงานและแรงงาน มากกว่าจะเป็นผลจากความต้องการใช้จ่ายของผู้บริโภค เนื่องด้วยกำลังซื้อของผู้บริโภคในภาพรวมที่ยังถูกกดดันด้วยหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่รายได้ของครัวเรือนยังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ภาพรวมการจ้างงานล่าสุดในเดือน ต.ค.2560 ยังไม่ได้ส่งสัญญาณการปรับตัวที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดี ก็อาจจะเป็นปัจจัยกดดันกำลังซื้อในภาพรวมไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี หากภาพเศรษฐกิจไทยสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ดีต่อเนื่องและมีการกระจายการเติบโตให้มีความครอบคลุมมากขึ้น ก็น่าจะส่งผลให้ภาพการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นตาม ซึ่งจะเป็นสัญญาณบวกต่อภาพกำลังซื้อในประเทศ
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน