2 อาชีพน่าห่วง ขยับตัวน้อยกว่าเกณฑ์ เสี่ยงโรคร้าย

11 ธ.ค. 2560

2 อาชีพน่าห่วง ขยับตัวน้อยกว่าเกณฑ์ เสี่ยงโรคร้าย

จากการสำรวจสถานการณ์กิจกรรมทางกายของประชาชนไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของกรมอนามัยและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. พบว่า ประชาชน 1 ใน 3 มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นจำนวนถึง 2 ใน 3 มีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากถึง 14 ชั่วโมง/วัน ซึ่งการมีพฤติกรรมเนือยนิ่งเป็นเวลานานจะส่งผลต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจและสมอง โดยพบว่ามี 2 อาชีพที่มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ

พนักงานออฟฟิศ-ขับรถ ขยับตัวน้อย
จากการสำรวจพบว่า มี 2 อาชีพ ที่มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ได้แก่

พนักงานบริษัท มักใช้เวลานั่งทำงานประมาณ 7 ชั่วโมง/วัน คนกลุ่มนี้มักมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ ไหล่ หลัง นิ้วล็อก จากท่านั่งใช้คอมพิวเตอร์ โดยพนักงานบริษัทมีการใช้พลังงานต่อวันจากการทำงานประมาณ 600 กิโลแคลอรี มีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางในแต่ละวันผ่านรูปแบบการเดินสั้น ๆ เช่น ไปขึ้นรถโดยสาร ถือว่าเป็นอาชีพที่มีกิจกรรมทางกายน้อย

โดยกิจกรรมทางกายที่ควรทำ คือ ระหว่างทำงานควรลุกยืนเดินทุก 2 ชั่วโมงให้ระบบเลือดไหลเวียนดี ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อที่เกร็ง ส่วนช่วงเลิกงานควรมีการเคลื่อนไหวแบบแอโรบิกอย่างน้อย 10 นาที สะสมให้ได้ 30 นาที/วัน เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ขึ้นบันได ว่ายน้ำ เป็นต้น หากไม่มีเวลาว่างให้เคลื่อนไหวจากการทำงานบ้านแทน นอกจากนี้ ควรสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน โดยทำงานบ้าน หรือใช้เครื่องออกกำลังกายตามที่สาธารณะ หรือฟิตเนส

คนทำงานขับรถ จะอยู่ในท่านั่งเป็นเวลานาน ซึ่งมีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว โดยรูปแบบการเคลื่อนไหวของร่างกายคือมีท่าทางที่ซ้ำ ๆ อยู่ในพื้นที่จำกัด และต้องบังคับรถตลอดเวลา ทำให้ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหลายส่วน คอ ลำตัว แขน ขา ทำให้มีอาการเมื่อยล้า ทั้งนี้ คนทำงานขับรถมีการใช้พลังงานจากการทำงานต่อวันคือ 500 กิโลแคลอรี โดยแทบไม่มีกิจกรรมระดับปานกลางถึงหนักเลย ถือเป็นอาชีพที่มีกิจกรรมทางกายน้อยกว่าข้อแนะนำ

หากจะเพิ่มกิจกรรมทางกายในอาชีพนี้ทำได้ใน 2 ช่วง คือ ระหว่างทำงาน ควรจอดรถหยุดพักทุก 2 ชั่วโมง ลุกขึ้นยืน เดิน เพิ่มการเผาผลาญ และยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ส่วนช่วงเลิกงานควรทำกิจกรรมทางกายเพิ่มเติม คือ ออกกำลังกาย เล่นกีฬา สะสมให้ได้วันละ 30 นาที หากไม่สะดวกอาจใช้การทำความสะอาดรถเป็นตัวช่วย หรือทำงานบ้าน และอาจไปออกกำลังกายตามที่สาธารณะหรือฟิตเนสเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วย

สสส. แนะ คนทำงานควรมีเวลาว่างออกกำลังกาย

สสส. แนะ คนทำงานควรมีเวลาว่างออกกำลังกาย

แนะเพิ่มกิจกรรมทางกายปานกลาง-หนัก 150 นาที/สัปดาห์
ด้านสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แต่ละกลุ่มวัยจะมีระดับและระยะเวลาในการทำกิจกรรมทางกายที่แตกต่างกันไป โดยหลักการคือ ประชาชนทั่วไปควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงหนัก ประมาณ 150 นาที/สัปดาห์ อาจแบ่งเป็น 5 วัน เฉลี่ยมีกิจกรรมทางกายให้ได้วันละ 30 นาที ซึ่งถือว่าไม่มากจนเกินไป ใช้เวลาน้อยกว่าการดูละครเสียอีก โดยอาจใช้วิธีการเดินเร็วหรือปั่นจักรยาน และทำให้เป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน

อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่น่ายินดีที่คนไทยมีอัตราการมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นเป็น 73% จากปี 2559 ที่อยู่ที่ประมาณ 70% ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะระดับโลก การเพิ่มกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นเพียง 0.5-1% เท่านั้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากการรณรงค์อย่างจริงจังและคนไทยหันมาใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ