ในปี 2560 ที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มกลับมาน่าสนใจ จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบกลยุทธ์การพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวคอนโดมิเนียมของดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการอัดเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปในโครงการ อาทิ โครงการจากบริษัทอนันดาฯ การพัฒนาโครงการร่วมกับกลุ่มทุนต่างชาติ อาทิ โครงการจากบริษัทแสนสิริ การปรับที่อยู่อาศัยให้เข้ากับผู้สูงอายุ ซึ่งในปัจจุบันก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้วกับโครงการ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ (Jin Wellbeing County) ตลอดจนการเลือกหาทำเลใกล้เมืองและผลิตโครงการในราคาไม่แพงมากหรือผลิตที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ก็ถือเป็นการตลาดที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสนใจ
โดยในปีนี้มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากใหม่มากมายทั้งในเมืองและบริเวณแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แต่ที่แอบเห็นมามีหลายโครงการที่เลือกทำเลใกล้เมืองห่างจากรถไฟฟ้าไม่มากและมีการซอยยูนิตย่อยให้โครงการสามารถขายได้หลายยูนิตเพื่อความคุ้มทุนในการปักหมุดโครงการบนที่ดินที่ใกล้ชิดกับเมืองมากที่สุด ซึ่งที่ดินเหล่านั้นมีอัตราการขายต่อตารางวาที่ไม่ถูกแน่นอน ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสของคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่แพงมาก แต่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมืองได้
วันนี้ DDproperty จึงขอพาทุกคนไปชมโครงการใหม่ในปี 2560 ที่ทั้งอยู่ในเมืองและอยู่ใกล้เมืองมากๆ ชนิดที่บางโครงการไม่จำเป็นต้องนั่งรถไฟฟ้าออกไปทำงานก็ได้ โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ราคา 1 ล้านกลางๆ ไปจนถึงไม่เกิน 3 ล้าน ซึ่งต้องบอกว่ามนุษย์เงินเดือนหรือผู้มีรายได้ที่ประมาณ 30,000 บาทขึ้นไปน่าจะกู้ง่ายผ่านการอนุมัติสบายๆ สำหรับโครงการเหล่านี้ แต่ใครที่มีเงินเดือนเริ่มต้นไม่เกิน 15,000 บาทก็ไม่ต้องหมดหวัง ลองศึกษาหาข้อมูลในการกู้ร่วมอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำให้การกู้ซื้อคอนโดฯ เป็นเรื่องง่าย ผ่อนสบายขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แต่ส่วนใครที่ไม่มั่นใจว่าเงินเดือนเท่านี้จะซื้อคอนโดฯ ได้เท่าไหร่ก็สามารถศึกษาข้อมูลได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้องกับการกู้ซื้อคอนโดฯ
เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อคอนโดฯได้มากแค่ไหน
กู้ร่วม…ทางออกคนอยากกู้ซื้อบ้าน (ตอนที่1)
กู้ร่วม…ทางออกคนอยากกู้ซื้อบ้าน (ตอนจบ)
3 หลักสำคัญในการ “กู้ร่วมซื้อบ้าน”
คู่รักอยากกู้ร่วม เพศเดียวกันก็ทำได้
โครงการ ดิ เอ็กเซล รัชดา 17 (The Excel Ratchada 17) เริ่มต้น 1.7 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
“รัชดาภิเษก” ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่พลาดไม่ได้ที่จะเข้ามาปักหมุดโครงการ โดยเฉพาะช่วงต้นของถนนรัชดาภิเษกฝั่งพระราม 9 โดยถึงแม้ในปัจจุบันที่ดินบริเวณนี้จะหายาก และมีราคาค่อนข้างสูงก็ตาม แต่ยังมีผู้พัฒนาให้ความสนใจและเฟ้นหาพื้นที่ตามซอยต่างๆ นับตั้งแต่รัชดาภิเษกซอย 3 ขึ้นไปตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT จนไปจรดที่บริเวณแยกลาดพร้าวล้วนแต่เป็นพื้นที่ที่มีการเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวคอนโดมิเนียมสูงไม่เกิน 8 ชั้น และส่วนใหญ่จะเป็นดีเวลลอปเปอร์ที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงและมีเงินทุนหนาจากพื้นที่ที่แม้อยู่ในซอยแต่ก็มีราคาไม่ต่ำกว่าตารางเมตรละ 90,000 บาทเลยทีเดียว
โดยหนึ่งในผู้พัฒนาหน้าใหม่แต่มีชั่วโมงการบินสูงจากการพัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ราคาโดนใจมนุษย์เงินเดือนที่อยู่ในพอร์ทมากกว่า 5 โครงการ และสามรถทำการปิดจ็อบ Sold Out โครงการต่างๆ มาโดยตลอดอย่าง บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ก็ไม่พลาดที่จะเข้ามาปักหมุดโครงการใหม่บนทำเลรัชดา ท้าชนผู้พัฒนาบิ๊กเนมด้วยโครงการ ดิ เอ็กเซล รัชดา 17 (The Excel Ratchada 17) คอนโดมิเนียม 8 ชั้นที่เน้นการอยู่อาศัยจริง สามารถเชื่อมต่อกับ MRT สุทธิสารได้ในระยะเวลาไม่นานหรือประมาณ 1 กม. ชูจุดเด่นในเรื่องราคาที่ถูกกว่าโครงการอื่นๆ ในระแวกนี้แต่สามารถตอบโจทย์ความสะดวกสบายได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.7 ล้านบาทเท่านั้น
โครงการ ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช (Knightsbridge Prime Onnut) เริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
ถึงแม้ตลาดคอนโดมิเนียมจะซบเซา แต่อสังหาริมทรัพย์แนวคอนโดมิเนียมก็ยังผุดโครงการใหม่ๆ ออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง และนำเทรนด์ใหม่ๆ การตลาดใหม่ๆ เข้ามาเป็นจุดเด่นของโครงการ อาทิ โครงการร่วมทุนต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งการตลาดที่ช่วยผยุงให้คอนโดมิเนียมมียอดขายเพิ่มขึ้นจากกลุ่มนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติ นอกจากนั้นยังไม่พอเรื่องของโปรดักส์โครงการก็ย่อมต้องมีการทำการบ้านที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทำเล ดีไซน์อาคาร Layout Unit ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้โครงการออกมาสมน้ำสมเนื้อกับการร่วมทุนกับต่างชาติ โดยโครงการที่มีการร่วมทุนกับบริษัทญี่ปุ่นในปีนี้ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยก็คือ โครงการ ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช (Knightsbridge Prime Onnut) หนึ่งใน 3 โครงการใหม่ของ Origin ที่มีการร่วมทุนกับ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด และเป็นโครงการที่มีมูลค่าโครงการมากที่สุดใน 3 โครงการ โดยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาทจากทั้งหมด 6,100 ล้านบาท
ไฮไลท์เด่นของโครงการที่มีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ในระแวกเดียวกันคือความสูงของพื้นถึงเพดานห้อง (Floor to Ceiling) ที่สูงถึง 3 เมตรสำหรับที่อยู่อาศัยทุกห้อง นอกจากนั้นยังมีที่จอดรถเป็นระบบ Auto Parking ที่รองรับการจอดได้ถึง 65% พร้อมจุดชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วย Facility หลักๆ ที่ชั้น 37-38 ประกอบด้วย Executive Meeting Room และ Private Meeting Room ห้องประชุมส่วนกลาง ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกันกับ Sky Co-Working Space ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่ รวมไปถึงห้อง Steam แยกชาย-หญิง สระว่ายน้ำขนาด 14.5 x 20 x 1.2 เมตร ที่มีส่วน Pool Bar กับ Pool Bed และ Fitness ขนาดกว่า 100 ตร.ม. ในแบบ Double Space รวมไปถึง Facility ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอีกมากมายกับราคาเริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาท
โครงการ ไลฟ์ อโศก – พระราม 9 (Life Asoke – Rama 9) เริ่มต้น 2.75 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
จากครึ่งปีแรกในปี 2560 ที่ผ่านมายอดโอนของตลาดแนวราบยังคงสูงกว่าคอนโดมิเนียมอยู่ แต่ปัจจุบันก็ยังมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ดินเปล่าที่ยังคงหลงเหลือตามแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ ภายในเมืองก็ถูกพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมทั้งหมด โดยจะแบ่งออกเป็น 3 เซกเมนต์หลักๆ ด้วยกันคือ คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในเมืองส่วนใหญ่จะเป็นโครงการระดับพรีเมี่ยมที่มีราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป เซกเมนต์ที่สองจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าในเมืองไม่เกิน 500 ม.และเป็นคอนโดฯ ที่มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนเซกเมนต์สุดท้ายก็จะเป็นโครงการที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าออกไปเกิน 500 ม. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่อยู่ตามซอกซอยต่างๆ และเป็น โครงการที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
โดยถึงแม้ที่ดินในเมืองส่วนใหญ่ยังคงถูกพัฒนาให้เป็นคอนโดมิเนียมอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลอดคอนโดมิเนียมจะกลับมาคึกคักขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ทางการตลาดของผู้พัฒนาคอนโดฯ จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ และหนึ่งในผู้พัฒนาที่มีการปรับกลยุทธ์โดยการหยิบที่ดินในเมืองใกล้กับรถไฟฟ้าไม่เกิน 300 เมตรมาผลิตคอนโดมิเนียมที่มีราคาไม่ถึง 3 ล้านบาทก็คือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่หยิบเอาทำเลบนแยกพระราม 9 ห่างจากสถานี MRT พระราม 9 เพียง 300 ม. มาปักหมุดโครงการ ไลฟ์ อโศก – พระราม 9 (Life Asoke – Rama 9) คอนโดมิเนียมที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใหม่ใกล้เมืองในราคาที่เอื้อมถึงเพียง 2.79 ล้านบาทหรือมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 98,000 – 130,000 บาทเท่านั้น
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กิตติคม พจนี Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
