NCH ลุยเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม3,700 ล้านบาท โฟกัสแนวราบ แย้มกำลังเจรจานักลงทุนจีนและญี่ปุ่นขาย 2 โครงการคอนโดฯพัทยาและเชียงใหม่
นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม ประธานกรรมการบริหาร เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยถึง ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 60 มองว่ายังอยู่ในภาวะทรงตัว และยังสามารถพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาด โดยในปีนี้มองว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ สามารถขยายตัว 10% และมองว่ายังเป็นโอกาสทางเลือกที่ดีของผู้ที่ต้องการซื้อบ้านจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับมีโครงการรถไฟฟ้า ที่เชื่อมเข้าสู่เมืองชั้นในที่เร่งดำเนินการเกิดการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพและปริมณฑลให้เติบโตควบคู่
ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าพร้อมขาย มูลค่ารวมราว 3,500 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างขายและโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา จำนวน 10 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ประมาณ 600 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 2,900 ล้านบาท เป็นสินค้าระดับราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท
สำหรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ ทั้งหมด 4 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยเปิดตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/60 เป็นทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 2 ล้านบาท (บวก,ลบ) และบ้านแฝด ราคาระดับราคา 4.2 ล้านบาท ย่านลำลูกกา คลอง 6 และในไตรมาส 2/60 จะเปิดตัวโครงการย่านพุทธมณฑล สาย 5 ส่วนอีก 2 โครงการยังอยู่ระหว่างพิจารณาทำเล แต่จะอยู่ในเขตกรุงเทพฯโดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในมือจำนวนมากเพียงพอต่อการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้
ส่วนผลประกอบการปี 60 จะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 60 อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น10% จากปี 59 ที่มีรายได้ 1,400 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังตั้งเป้าหมายยอดขาย (Presale) ปี 60 อยู่ที่ 2,750 ล้านบาท
นอกจากนี้ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างขายในมือประมาณ 53 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 36,000 ล้านบาท โดยมีการเติบโตทั้งแนวราบและแนวสูง ปัจจุบันมี backlog อยู่ที่ 350-400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด โดยโครงการส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขาย จะใช้ระยะเวลาตั้งแต่ขายถึงการรับรู้รายได้ประมาณ 1-2 เดือน พร้อมกับเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างครอบคลุมทุก Segment ด้วยสโลแกน Home Expert Living Care
อย่างไรก็ดี แม้ว่าปัญหาการปฎิเสธสินเชื่อขณะนี้ โดยภาพรวมยอดปฎิเสธสินเชื่ออยู่ราว 30-40% โดยในส่วนของทางบริษัทยอดปฎิเสธสินเชื่อเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 30% ส่วนใหญ่จะเกิดกับบ้านราคาถูก ซึ่งมองว่าสถานบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออยู่ ปัญหาหลักเกิดจากลูกค้าติดบัญชีดำ เครดิตเสีย หรือ ถูกแบล็คลิสต์ เช่น หนี้ค่าโทรศัพท์ ที่สำคัญหนี้บัตรเครดิตที่มีสัดส่วนสูงมาก ทั้งนี้ ทางบริษัท เอ็น.ซี.ฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการบริหารลูกค้า ทั้งการให้ลูกค้ายื่นของสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่ง เพื่อเปิดโอกาสในการรับสินเชื่อ หรือพยายามส่งเสริมให้ลูกค้าสะสมเงินในบัญชีประมาณ 20% โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจอิสระ ขายสินค้า เพื่อให้ในบัญชีมีการเคลื่อนไหวของกระแสเงิน
>>อ่านรีวิวโครงการบ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ปากเกร็ด – ราชพฤกษ์ <<
ขณะเดียวกัน ทางบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรจากจีนและญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาซื้อโครงการคอนโดมิเนียมที่เชียงใหม่และพัทยา มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ซึ่งได้มีการพูดคุยกับพันธมิตรทั้ง 2 รายปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาในเรื่องราคาขาย
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน