รฟม. เรียก “บีเอสอาร์” ผู้ชนะประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สายสีชมพูเจรจาพร้อมสรุปผลเสนอ คนร.และสำนักงานอัยการสูงสุด เดินหน้าจัดทำร่างสัญญา คาดเมษายน เสนอครม.อนุมัติ พร้อมพิจารณาข้อเสนอซองที่ 3 หรือขยายเส้นทางสายสีชมพูเพิ่ม2-3 กม. เชื่อม “อิมแพค” และขยายเส้นทางสายสีเหลือง 2.6 กิโลเมตร จากถนนรัชดาไปแยกรัชโยธิน เชื่อมสายสีเขียว
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 5.2 หมื่นล้านบาท และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท ขณะนี้การเจรจากับทางเอกชนที่ชนะการประกวดราคา คือ กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ได้ข้อสรุปแล้ว ขณะเดียวกันก็ได้เสนอรายละเอียดผลการเจรจาไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อจัดทำร่างสัญญาแล้วเช่นเดียวกัน คาดว่าทั้งสองหน่วยงานจะส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อส่งต่อไปให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะเร่งลงนามสัญญาภายในเดือนเดียวกันตามกรอบเวลาเดิมที่ได้กำหนดไว้
นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ด้านการพิจารณาข้อเสนอซองที่ 3 หรือข้อเสนอเพิ่มเติมในโครงการรถไฟฟ้าทั้งสองสาย ได้แก่ การขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูอีก 2-3 กม. ที่จะเชื่อมต่อเข้าไปยังอิมแพค เมืองทองธานี และสายสีเหลือง จะขยายเส้นทางเพิ่มเติมอีก 2.6 กิโลเมตร จากถนนรัชดาไปยังแยกรัชโยธิน เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น มีการเจรจาว่าจะดำเนินการได้ภายหลังจากที่มีการเสนอโครงการเพิ่มเติมดังกล่าวให้บรรจุในแผนแม่บทการจราจรทางบก โดยทางเอกชนผู้ดำเนินโครงการจะต้องเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) และจะต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) รวมถึงจัดการออกแบบก่อสร้างตลอดจนการเวนคืนที่ดิน โดยรับภาระค่าใช้จ่ายในกระบวนการดังกล่าวเองทั้งหมด และต้องดำเนินการเสนอเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆภายในกรอบระยะเวลาของการก่อสร้างโครงการ 3 ปี 3 เดือนด้วย
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 1 – 4 หมื่นคน/ชั่วโมง เน้นการใช้พื้นที่บริเวณเกาะกลางถนนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด มีระดับทางวิ่งสูง 15 เมตร ชานชาลากว้าง 20-25 เมตร ยาว 110 เมตร เพื่อลดผลกระทบด้านการเวนคืนที่ดินให้น้อยที่สุด
>>ค้นหาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองย่านลาดพร้าว<<
>>ค้นหาคอนโดใหม่แนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ย่านแจ้งวัฒนะ – เมือทองธานีได้ที่นี่<<
ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีอาคารจอดแล้วจร (Park and Ride) อาคารจอดรถเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าที่สถานีศรีเอี่ยม จำนวน 1 แห่ง อาคาร 10 ชั้น สามารถจอดรถได้ประมาณ 3,000 คัน มีศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศตะวันตกของทางแยกต่างระดับศรีนครินทร์ตัดกับถนนบางนา-ตราด มีพื้นที่ประมาณ112 ไร่ ภายในศูนย์ประกอบด้วยศูนย์ควบคุมการเดินรถ กลุ่มอาคารซ่อมบำรุง สำนักงานบริหารและจัดการ และโรงจอดรถไฟฟ้า
โดยตลอดเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองยังมีจุดเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าและระบบขนส่งมวลชนอื่นๆถึง 4 จุด คือ สถานีรัชดาฯ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT) สถานีลำสาลี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี สถานีพัฒนาการ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์และรถไฟสายตะวันออก สถานีสำโรง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะมีสถานีให้บริการประชาชนทั้งสิ้น23 สถานี
ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 เป็นโครงการรูปแบบ PPP โดย รฟม. ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ด้านเอกชนผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร (PPP Net Cost) มีระยะเวลาสัมปทานทั้งสิ้น 33 ปี 3 เดือน
โดยการดำเนินงานจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี โดย รฟม. ได้เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอร่วมประมูลทั้ง 2 โครงการเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าทั้ง 2 โครงการมีผู้ร่วมประมูล 2 ราย ได้แก่ กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ และบริษัททางด่วนรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ซึ่งมีบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทแม่
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน