ตลาดอสังหาฯแนวราบ โซนตะวันออกขยายตัว หลังเกิด EEC เชื่อดันดีมานด์ที่อยู่อาศัยใหม่เกิดเพียบ ประกอบกับการขยายตัวของความต้องการที่อยู่อาศัย ในโซนภาคตะวันออกที่ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะได้รับอานิสงส์จากโครงการเมกะโปรเจกต์ระบบคมนาคม เช่นโครงการรถไฟทางคู่ และการตัดถนนทางด่วน เพราะรองรับปริมาณการเดินทางที่จะเพิ่มมากขึ้นจากภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งจะขยายตัวอย่างมากหลังรัฐบาลเดินหน้าโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลให้เกิดความต้องการด้านที่อยู่อาศัยตามมา
ด้านนายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ทางบริษัทเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจโดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเมืองชลบุรีและศรีราชา มีการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และจากการที่รัฐบาลมีแผนลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จะส่งเสริมศักยภาพพื้นที่ชลบุรี,ระยองและฉะเชิงเทราสูงมากขึ้น และพื้นที่น่าจับตามองคือ พัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวมีโอกาสขยายตัวด้านที่อยู่อาศัย ขณะที่ตลาดการแข่งยังไม่รุนแรงโดยซัพพลายแนวราบเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2-1.4 หมื่นยูนิต ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์และทาวน์โฮมสัดส่วนอยู่ที่ 70-75% ส่วนบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนอยู่25-30%
ตามแผนงานในปีนี้ที่ตั้งเป้าเปิด 8-10โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนในกทม.-ปริมณฑล 70% และในต่างจังหวัด 30% ซึ่งโครงการในต่างจังหวัดนั้น จะเน้นในโซนตะวันออกเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นชลบุรีบริเวณนิคมอมตะนคร ,ระยองและฉะเชิงเทรา ซึ่งโครงการทั้งหมดมีที่ดินหมดแล้ว อย่างไรก็ดีในปีนี้ได้วางงบซื้อที่ดินราว 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 3,650 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ที่ 3,100 ล้านบาท
ขณะที่ในไตรมาสแรกของปี บริษัทได้เปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ มูลค่า 1,350ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ ลลิล ทาวน์ ไลโอ บริสซ์ บางนา-สุวรรณภูมิ และ ลลิล ทาวน์ไลโอ บริสซ์ ชลบุรี-อมตะนคร ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี สามารถสร้างยอดขาย 40-50 ยูนิต หรือมียอดขายประมาณ 80-100 ล้านบาท และในไตรมาส2 เตรียมเปิดอีก 2 โครงการ
อย่างไรก็ดีในช่วงไตรมาส2 บริษัทได้เตรียมเปิดตัวเฟส 2 ในโครงการใหม่บ้านเดี่ยว “ลลิล ทาวน์ แลนซีโอ นอฟ พัทยา” บนพื้นที่กว่า 35-2-57 ไร่ บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่และทาวน์โฮม จำนวน 243 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 110-185 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 660ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการนำร่องการพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูสในโซนตะวันออก ซึ่งจากการเปิดพรีเซลเฟสแรกในเดือน ธ.ค.2559และสามารถปิดการขายเฟสแรกไปแล้ว สำหรับบ้านเดี่ยวราคาขายเริ่มต้น 2.8-5ล้านบาท ส่วนทาวน์โฮมราคาขายเริ่มต้น 1.7-1.9ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายที่ 200-250 ล้านบาท
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน