หมดช่วงเทศกาลยื่นภาษีไปแล้วหมาดๆ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าใครมีอะไรลดหย่อน รีบนำเอกสารมารวบรวมแจกแจงแก่กรมสรรพากร เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มและอาจได้เงินคืนในอันดับต่อไป แต่ระหว่างเฝ้ารอนั้น เชื่อว่าหลายคนกำลังเกิดคำถามขึ้นในใจ ว่าทำไมบางคนยื่นภาษีไม่กี่วัน กลับได้รับเงินคืนอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตนเองยังไม่มีผลตอบรับการอนุมัติเงินคืนภาษีแต่อย่างใด ต่อไปนี้ข้อสงสัยเหล่านี้จะกระจ่างแจ้ง หากได้ติดตาม ตรวจสอบขอคืนภาษี จากกรมสรรพากรอย่างละเอียดดังต่อไปนี้

ภ.ง.ด 91 ภาพ via itax.in.th
1. ตรวจสอบขั้นตอนคืนภาษี ผ่านระบบหน้าเว็บไซต์ www.rd.go.th
อันดับแรกเมื่อทำการยื่นภาษีไม่ว่าจะผ่านระบบอินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชันบนมือถือ หรือให้ทางเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรกอกแบบฯ ต่างจำเป็นต้องติดตามกระบวนการเดินทางของเอกสารแสดงรายได้ รวมถึงรายละเอียดลดหย่อนภาษีต่างๆ ซึ่งผู้ยื่นแบบฯ ทุกรายสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานะผ่านระบบบริการสอบถามข้อมูลคืนภาษี จากหน้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้หลังจากยื่นแบบฯ ไปแล้ว 1 วัน (กรณียื่นแบบฯ กระดาษ) ว่าได้เข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาแล้วหรือไม่อย่างไร โดยต้องระบุปีภาษี ชื่อ นามสกุล ผู้เสียภาษี เลขบัตรปะชาชน อย่างถูกต้อง หลังจากนั้นระบบจะทำการตรวจสอบสถานะการคืนเงินภาษีทันที

ตรวจสอบสถานะการขอคืนภาษ๊ ภาพ via www.rd.go.th
2. ผลการสอบถามข้อมูลยื่นภาษี ปรากฎเอกสารไม่ครบ
หากเกิดแจ็กพอตส่งเอกสารไม่ครบ หรือดันไปกดส่งแบบฯ มากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งพบบ่อยสำหรับผู้ยื่นผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ ต้องทำการยื่นเอกสารใหม่ทันทีภายในเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด มิเช่นนั้นจะได้เงินคืนช้ากว่าคนอื่น หรือไม่ได้รับเลย โดยสามารถยื่นเอกสารเพิ่มผ่านระบบออนไลน์ แนบเอกสารไฟส์ PDF เท่านั้น เพราะถ้าเป็นไฟส์อื่นเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถเปิดดูได้ หรืออาจทำการส่งเอกสารสำเนาผ่านแฟกซ์ และไปรษณีย์ ตามที่ผู้ยื่นภาษีสะดวก ทั้งนี้จำเป็นต้องมีใบนำส่งเอกสาร แสดงรายละเอียดการแนบเอกสารที่ขาด พร้อมระบุเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับอย่างถูกต้อง

ใบนำส่งเอกสารเพิ่มเติม ภาพ via www.rd.go.th
3. ส่งเอกสารให้ตามที่ขอ จะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าหน้าที่ได้รับแล้ว
เมื่อส่งเอกสารตามที่กรมสรรพากรขอเพิ่มเติม ผ่านทางช่องทางต่างๆ แล้ว สามารถเข้าไปเช็กได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เข้าเว็บไซต์ www.rd.go.th
2. ไปที่หน้า E-FILING
3. คลิ๊ก ส่ง/ ตรวจสอบการส่งเอกสารประกอบการคืนภาษี
4. เมื่อตรวจสถานะ อยู่โหมด “ผู้คืนภาษีได้รับเงินคืนภาษี” แต่กลับยังไม่ได้รับเงิน
กรณีดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ หากผู้ยื่นภาษีได้ทำการเปลี่ยนที่อยู่ โดยไม่ได้ทำการแจ้งแก่กรมสรรพากร หรืออาจไม่ได้เปลี่ยนที่อยู่ แต่ดันไม่ได้รับเงินคืน ให้ทำการติดต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่ ตามที่ระบุไว้ในแบบฯ ภ.ง.ด.90/91 เพื่อขอรับเช็คฉบับดังกล่าว หรือโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ตนเองสมัครไว้ โดยเอกสารที่ใช้ประกอบคำร้องมีดังนี้
1. บัตรประจำประชาชน พร้อมสำเนา
2. หนังสือมอบอำนาจ กรณีให้ผู้อื่นกระทำการแทน และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจพร้อมสำเนา
5. ติดตามวันได้รับเงินคืนภาษี ทั้งรูปแบบพร้อมเพย์และเช็ค
โดยปกติแล้ว กรมสรรพากรจะกำหนดขั้นตอนการคืนภาษี ด้วยการเช็คก่อนว่าผู้ยื่นภาษีได้มีการผูกระบบพร้อมเพย์ไว้กับธนาคารใด ถ้าหากมีการสมัครพร้อมเพย์ จะทำการคืนเงินภาษีให้ในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน แต่หากไม่มีข้อมูลลงทะเบียนพร้อมเพย์ ระบบจะส่งข้อมูลกลับมาที่สรรพากรอีกครั้ง ซึ่งจะใช้เวลา 30 วัน เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้ลงทะเบียนจริงจะทำการส่งเช็คไปที่ที่อยู่ของผู้ยื่นภาษี โดยใช้เวลา 15 วัน เบ็ดเสร็จทั้งสิ้น 45 วันได้รับเงิน
ขอบคุณข้อมูล rd.go.th
เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน