รถไฟฟ้าจุดพลุพื้นที่รอบ “เมืองนนท์” หนุนตลาดแนวราบบูม

26 เม.ย. 2560

อย่างที่รู้กันว่าปีนี้ นอกจากเป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะรายใหญ่ในตลาดทั้งปรับโครงการสร้างองค์กรใหม่ ปรับเปลี่ยนแนวทางการการรุกตลาดหันมาพัฒนาโครงการครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น บน-กลาง-ล่าง ทั้งแนวราบและแนวสูง รวมถึงโครงการที่จะสร้างรายได้เข้าบริษัทอย่างสม่ำเสมอ หรือ Recurring Income ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กยังคงต้องทำการบ้านหนัก หารูปแบบการจัดโปรโมชั่นใหม่ๆ และทำการตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อดึงดูดผู้บริโภค

ทว่า ณ วันนี้พื้นที่จังหวัดนนทบุรีเรียกได้ว่าเป็นตลาดหนึ่งที่น่าจับตามอง เพราะมีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาพัฒนาโครงการแนวราบกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายชะลอการพัฒนาคอนโดมิเนียมเพราะมีซัพพลายเหลือขายค่อนข้างเยอะในพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้น ตลาดแนวราบจึงเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อรองรับดีมานด์สำหรับคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยย่านรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – เตาปูน

นางสาวสุนิสา สุขจั่น รองประธานบริหาร บริษัท บัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัดและกรรมการผู้จัดการบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เจ้าถิ่นอสังหาริมทรัพย์เมืองนนทบุรี กลุ่มธุรกิจรับบริหารงานขายและวางแผนการตลาดโครงการอย่างครบวงจร ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ในไตรมาสแรกจะเห็นว่าตลาดมีการเติบโตอยู่ที่ 3-5% และเชื่อว่าการแข่งขันในตลาดยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง

“ตลาดแนวราบการแข่งขันรุนแรง ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ขยายแนวรบเพิ่มพอร์ตครอบคลุมทุกเซกเมนต์และยังขยายการลงทุนมาในพื้นที่ชานเมืองมากขึ้นอย่างในพื้นที่นนทบุรีมีการพัฒนาโครงการตลาดทาวน์เฮ้าส์มากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเส้นทางรถไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ต้นทุนที่ดินในการพัฒนาบ้านเดี่ยวเพิ่มสูงขึ้นจากกว่า 10% เป็น 20%”

ขณะที่ ตลาดแนวราบการแข่งขันรุนแรง ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ขยายแนวรบเพิ่มพอร์ตครอบคลุมทุกเซกเมนต์และยังขยายการลงทุนมาในพื้นที่ชานเมืองมากขึ้นอย่างในพื้นที่นนทบุรีมีการพัฒนาโครงการตลาดทาวน์เฮ้าส์มากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเส้นทางรถไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ต้นทุนที่ดินในการพัฒนาบ้านเดี่ยวเพิ่มสูงขึ้นจากกว่า 10% เป็น 20%ขณะที่ต้นทุนที่ดินของทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่าจึงทำให้ผู้ประกอบการหันมาทำตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น

project-6-type-27

ด้านแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้มีทั้งธุรกิจรับบริหารงานขายและวางแผนการตลาด และการพัฒนาโครงการเอง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่รับบริหารงานขายประมาณ 9-10 โครงการมีทั้งคอนโดมิเนียม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และมีหลายโครงการที่จบสัญญาไปแล้วดังนั้นในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะรับบริหารโครงการเพิ่ม 8-10 โครงการ โดยในไตรมาส 2 จะมีเข้ามาประมาณ 4-5โครงการ ทั้งนี้ในไตรมาสแรกบริษัทมียอดขายรวม 238 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจพัฒนาโครงการนั้น ขณะนี้เหลือโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 2 โครงการซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ 50 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท ได้แก่ โครงการพฤกษ์พิมาน5 (กาญจนาภิเษก ลาดปลาดุก) เหลือเพียง 20 ยูนิต คาดว่า จะปิดการขายได้ภายในเดือน ส.ค.2560 และโครงการ พฤกษ์พิมานการ์เด้น (วงแหวน-ราชพฤกษ์) ได้มีการเปิดขายเฟส 2 เมื่อต้นปีนี้ จำนวน 71 หลัง คาดว่าจะปิดการขายภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ปีนี้บริษัทมีรายได้ที่ 280 ล้านบาท

นอกจากนี้ทางบริษัทได้เตรียมหาซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อพัฒนาโครงการในโซนจังหวัดนนทบุรีอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนจะเปิดเพิ่มอีก1โครงการในย่านบางบัวทองช่วงกลางปีนี้ ซึ่งจะพัฒนาในรูปแบบทาวน์เฮ้าส์ ขนาดพื้นที่ประมาณ 12-15 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 200 ล้านบาท เปิดขายในราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท อย่างไรก็ดีบริษัทวางเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1,100 ล้านบาท

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ