หลายคนคงรู้จัก ‘บัตรเดบิต’ แค่เพียงในฐานะบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถโอนเงิน หรือถอนเงินสดจากเครื่อง ATM เพื่อใช้สอยในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วบัตรเดบิตสามารถใช้ชำระค่าสินค้าที่เครื่องรับบัตรตามร้านค้า และช่องทางออนไลน์ได้ด้วย ซึ่งบัตรเดบิตในปัจจุบันมีความปลอดภัยสูงขึ้น เนื่องจากปรับเปลี่ยนบัตรจากแถบแม่เหล็กเป็น Chip Card และยังมีระบบการใช้ Pin Code
แม้จะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้หลายอย่างแต่ในประเทศไทยกลับมีการใช้ไม่แพร่หลายนัก เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ร้านค้าที่รับบัตรยังมีไม่แพร่หลายมากนักส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเขตเมืองและแหล่งท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะเป็นในร้านค้าขนาดใหญ่ หรือห้างสรรพสินค้า ในขณะที่ร้านค้าบางแห่งเลือกที่จะไม่รับชำระเงินด้วยบัตร หรือรับชำระเงินด้วยบัตรแต่กำหนดยอดซื้อขั้นต่ำ หรือให้ส่วนลดการชำระด้วยเงินสดมากกว่าการชำระด้วยบัตร ร้านค้าไม่ติดตั้งเครื่องรับบัตรเนื่องจากมีภาระค่าธรรมเนียมการรับบัตร และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องค่อนข้างสูง
กระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment จึงได้จัดโครงการต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างกว้างขวางและครบวงจร เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่พบว่ามีการใช้บัตรเดบิตในการชำระเงินแทนเงินสดอย่างแพร่หลาย เช่น
1.โครงการการขยายการใช้บัตรที่ได้เริ่มกระจายอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังทุกภาคส่วนแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันเริ่มวางเครื่องรับบัตรแล้วประมาณ 65,000 เครื่อง จากเป้าหมายจะติดตั้งทั้งหมดประมาณ 560,000 เครื่อง ให้ครบในเดือนมีนาคม 2561
2.กำหนดให้ร้านค้าที่รับบัตรเดบิต เสียค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 0.55% เท่านั้น ซึ่งลดลงมาจากอัตราเดิมที่ธนาคารเรียกเก็บจากร้านค้าในอัตรา 1.5-2.5% นอกจากนี้ บางธนาคารได้คิดอัตราค่าธรรมเนียมที่น้อยกว่าอัตราที่คณะกรรมการ National e-Payment กำหนด
ล่าสุด กระทรวงการคลังได้ร่วมกับธนาคารพันธมิตรเปิดโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้า เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดมากขึ้น โดยจะเริ่มแจกโชคในเดือนมิถุนายน 2560 เป็นเดือนแรก (โดยใช้ข้อมูลการทำธุรกรรมในเดือนพฤษภาคม 2560) และแจกต่อเนื่องทุกเดือน เป็นระยะเวลา 12 เดือน ซึ่งรางวัลทั้งโครงการจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 84 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายใต้โครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต ผู้มีสิทธิ์ได้รับรางวัล ได้แก่ ประชาชนที่ใช้บัตรเดบิตของสถาบันการเงินไทยเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศ (ไม่รวมธุรกรรม e-Commerce และการโอนเงิน) โดยประชาชนสามารถใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้าได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ไม่กำหนดจำนวนเงินและจำนวนครั้งที่รูด เพียงแค่เก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน และร้านค้าที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ที่ติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือปรับปรุงเครื่อง โดยใช้บริการกับผู้มีสิทธิ์วางเครื่องที่ได้รับการคัดเลือกจากภาครัฐ (ไม่รวมหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ)
การแจกโชคจะมีทุกเดือนเป็นระยะเวลา 1 ปี (1 มิถุนายน 2560-31 พฤษภาคม 2561) โดยในแต่ละเดือนผู้ใช้บัตรเดบิตจะมีรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท 1 รางวัล และรางวัลอื่น ๆ ตั้งแต่ 2,000-100,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,001 รางวัล คิดเป็นเงินรางวัลรวม 5.6 ล้านบาทต่อเดือน ในส่วนของร้านค้าจะมีรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท 1 รางวัล และมีรางวัลย่อยรางวัลละ 30,000 บาท อีก 5-30 รางวัลต่อเดือน การประกาศรายชื่อผู้โชคดีจะมีทุกวันที่ 16 ของเดือน ซึ่งครั้งแรกคือวันที่ 16 มิถุนายน 2560 โดยจะมีการประกาศออกสื่อต่าง ๆ และผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
