คงเป็นเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนาโครงการอสังหาฯมิใช่เพียงการซื้อ-ขาย-เช่าอีกต่อไป ซึ่งการทำโครงการหนึ่งโครงการ จำเป็นต้องลงลึกไปถึงการดูแลทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยล่าสุด SC รุกธุรกิจใหม่บริการหลังการขายภายใต้บริษัท “ เอสซี เอเบิล (SC Able)” พร้อมร่วมทุนกับ “ฟิกซิ (Fixzy)” Innovative startup แอพฯ รวมช่างอันดับหนึ่งของไทย เพื่อต่อยอดธุรกิจและตอบโจทย์แบบ Total Solution พร้อมมุ่งยกระดับบริการหลังการขายอสังหาฯ ไทย
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน คือบริการหลังการขายที่ดี ดังนั้นเพื่อให้คุณภาพของบริการหลังการขายเติบโตไปพร้อมกับปริมาณของลูกค้า และเพื่อสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับ SC ยุค 4.0 เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
ทางบริษัทพร้อมเดินหน้ารุกในธุรกิจใหม่เรื่องบริการหลังการขายผ่านบริษัท เอสซี เอเบิล จำกัด (เดิมคือ บริษัท โอเอไอ แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของSC ก่อตั้งมาหลาย 10 ปีแล้วดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจอสังหาฯเพื่อการเช่า มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท และได้เปลี่ยนชื่อเป็น เอสซี เอเบิลฯเมื่อปลายเดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมา)
ซึ่งทางบริษัท ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2562 กับเป้ายอดขาย 20,000 ล้านบาท หรือจะมีลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์กว่า 16,000 ครอบครัว และมีครอบครัวที่อยู่ในระบบประกัน 1 ปีประมาณ 4,000ครอบครัว และเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานได้เข้าไปร่วมทุนในสัดส่วน 10% หรือเงินลงทุน 10 ล้านบาท ในบริษัท ฟิกซิ จำกัด ซึ่งเป็น Startup ผู้ให้บริการ Application รวบรวมสารพัดช่างอันดับหนึ่งของประเทศไทย ช่างบน platform ของฟิกซิ จะได้รับการฝึกพัฒนาจาก Able Academy ในขณะที่ เอสซี เอเบิลฯ จะมีช่างคุณภาพจำนวนมากปัจจุบันมีมากกว่า 3,000 รายในกทม.และหัวเมืองท่องเที่ยว เพื่อดูแลลูกค้าของ SC พร้อมกับสร้างมาตรฐานใหม่ของการบริการหลังการขายของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
โดยในช่วงปี 2560-2561 บริษัทฯได้ตั้งงบลงทุนในบริษัท Startup ไว้จำนวนทั้งสิ้น 50 ล้านบาท โดย 10 ล้านบาทแรกได้ร่วมทุนกับฟิกซิฯไปแล้ว ส่วนอีก 40 ล้านบาท ก็เตรียมไว้ร่วมทุนกับ Startup รายอื่นที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งจะต้องมีธุรกิจที่สอดคล้องและส่งเสริมเรื่องงานบริการหลังการขายเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นโอกาส เพราะประเทศไทยมี 20 ล้านครัวเรือนในส่วนของบ้านและคอนโดฯ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ ” นายณัฐพงศ์กล่าว
นายสมศักดิ์ เธียรธีรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซี เอเบิล จำกัด กล่าวว่า จะรับผิดชอบงานบริการหลังการขายแบบครบวงจร ภายใต้สโลแกน “Your Home in Good Hands – มือโปรของทุกบ้าน” แบ่งเป็น 3 เรื่อง ได้แก่ 1. After-sales Service Management ดูแลบริการหลังการขายลูกค้า SC ที่อยู่ในระยะรับประกัน 2. Home Service Contractor เป็นผู้รับเหมาดูแลงานซ่อมบำรุงสำหรับลูกค้า SC นอกระยะรับประกัน กับลูกค้าทั่วไป 3. Able Academy เป้าหมายผลิตบุคลากรเพื่อยกระดับความเป็นเลิศด้านมาตรฐานและการบริการ ด้วยสถาบันอบรมพัฒนาช่างฝีมือและอบรมทีมรักษาความปลอดภัย (รปภ.) พร้อมกับได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ เอสซีจี,แอร์ไดกิ้น และสีเบเยอร์, เป็นต้น
ด้านนายรัชวุฒิ พิชยาพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิกซิ จำกัด ผู้ให้บริการ application ครอบคลุมทุกบริการเรื่องช่างรายแรกของไทย กล่าวว่า ฟิกซิ ก่อตั้งมาได้ประมาณ 3 ปี ในรูปแบบของ startup mobile platform เกิดจากความต้องการแก้ปัญหางานซ่อมแซมและดูแลรักษาบ้าน เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถหาช่างและผู้ให้บริการที่ดี มีคุณภาพมาตรฐานในราคาเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เล่นในธุรกิจดังกล่าวเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่างของบริษัทฯยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร แต่การร่วมทุนกับเอสซี เอเบิลฯในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น จากฐานลูกค้า SC ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมียอดดาวน์โหลด application จำนวนกว่า 50,000 ครั้ง และมีส่วนแบ่งตลาดเกิน 60%
ปัจจุบันประเทศไทยมีครอบครัวมากกว่า 20 ล้านครัวเรือน โดย 2 ปีที่ผ่านมาพบว่ามูลค่าตลาดรวมการรับงานการซ่อมแซมและบำรุงรักษาบ้านอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท/ปี โดยปี 2559 ที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นของบริษัทมากกว่า 40,000 คน จากจำนวนช่างทั้งหมด 3,500 คน ซึ่งบริษัทฯสามารถหางานให้ช่างได้กว่า 15,000 งาน มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ที่ 20-30 ล้านบาท จากปี 2559 ที่มีรายได้ 12 ล้านบาท
“เรามีทั้งงานช่างเพื่อซ่อมแซม ติดตั้งและดูแลทุกปัญหาภายในบ้านทั้งเรื่องระบบน้ำ ระบบไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า งานโครงสร้าง พร้อมงานบริการต่างๆ เช่น ล้างแอร์ ทำความสะอาดบ้านและอื่นๆ ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจไปยังหัวเมืองใหญ่ทั้ง ขอนแก่น, เชียงใหม่ ชลบุรี และ สุพรรณบุรี เรียบร้อยแล้ว และมีแผนขยายต่อไปยัง นครราชสีมา ภูเก็ต หาดใหญ่ต่อไป และผมมั่นใจว่า Platform Fixzy จะช่วยพัฒนาบริการหลังการขายซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับลูกบ้าน เจ้าของโครงการ และผู้ให้บริการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย รวมไปถึงนิติบุคคลต่างๆ ซึ่ง Fixzy จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในทุกๆ เรื่องของ Property Technology”นายรัชวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
