ปัญหาการจราจรถือเป็นปัญหาคลาสสิกที่มีให้เห็นอยู่เสมอสำหรับเมืองใหญ่ ๆ ภาพชัดและใกล้ตัวที่สุดก็คือกรุงเทพฯ ที่ปัจจุบันมีการจราจรที่แสนจะคับคั่ง เนื่องจากปริมาณรถที่มีมากขึ้นทุกวัน แต่ปริมาณถนนกลับสวนทางอย่างเห็นได้ชัด การแก้ปัญหาของกรุงเทพฯ คือการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะระบบราง ให้มากและครอบคลุมขึ้น ซึ่งสามารถแก้ปัญหารถติดได้ในระดับหนึ่ง จึงเป็นโมเดลสำคัญที่ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ต่อยอดไปสู่การแก้ปัญหารถติดในหลายจังหวัดสำคัญที่มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างก้าวกระโดด ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา เชียงใหม่ พิษณุโลก ภูเก็ต และหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
รถไฟฟ้าในภูเก็ตใกล้ความจริง เริ่มสร้างปี 61
ภูเก็ตเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีปัญหาการจราจรทั้งจากประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงได้พัฒนาโครงการรถไฟฟ้ารางเบา หรือ LRT เข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว โดยโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก เริ่มต้นจากสถานีท่านุ่น จ.พังงา ถึงสนามบินภูเก็ต กับ ช่วงที่ 2 จากสนามบินภูเก็ตถึงห้าแยกฉลอง รวมระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 2,000 คน/ชั่วโมง โดยจะก่อสร้างบนพื้นผิวถนน และอาจจะมีลอดใต้ดินในบางช่วงที่เป็นจุดตัด ใช้เงินลงทุนประมาณ 28,000 ล้านบาท
ปัจจุบันแผนการศึกษาความเหมาะสมระบบขนส่งมวลชนในภูเก็ตเสร็จหมดแล้ว สนข. เตรียมเสนอแผนต่อกระทรวงคมนาคมภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อส่งต่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป คาดว่าจะลงมือก่อสร้างได้ในปี 2561 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี
หาดใหญ่ ใช้โมโนเรล เสริมการท่องเที่ยว
หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เริ่มออกตัวพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย ซึ่งในปี 2558 มีถึง 2.3 ล้านคน โดยเลือกใช้รถไฟฟ้าโมโนเรล หรือระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) เข้ามาเชื่อมระหว่างใจกลางเมืองหาดใหญ่กับสนามบิน
โดยรถไฟฟ้าโมโนเรล หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นโครงสร้างยกระดับ มีจุดเริ่มต้นที่สี่แยกคลองหวะ สิ้นสุดปลายทางที่สถานีรถตู้ ระยะทาง 12.5 กิโลเมตร จำนวน 12 สถานี ใช้เงินลงทุน 16,100 ล้านบาท โดยรถ 1 ขบวน มี 4 ตู้โดยสาร บรรทุกผู้โดยสารได้ 464 คน อัตราค่าโดยสารประมาณ 20 บาทตลอดสาย
ปัจจุบันแผนการศึกษาความเหมาะสมระบบขนส่งมวลชนในหาดใหญ่เสร็จหมดแล้ว สนข. เตรียมเสนอแผนต่อกระทรวงคมนาคมภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อส่งต่อให้ ครม. อนุมัติต่อไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุมัติปลายปีนี้ ตั้งเป้าเริ่มก่อสร้างในปี 2561 และคาดว่าจะเปิดใช้ได้ในปี 2563-2564
‘ขอนแก่นโมเดล’ รถไฟฟ้าจากความร่วมมือของรัฐ-เอกชน
ภาพ via www.khonkaenthinktank.com
ขอนแก่นโมเดล คือรูปแบบการลงทุนของภาคเอกชนที่ดึงเอา 5 เทศบาลจังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลตำบลเมืองเก่า เทศบาลตำบลสำราญ และเทศบาลตำบลท่าพระ มาช่วยออกแรงผลักดันโครงการรถไฟฟ้าในจังหวัด จัดตั้งเป็นบริษัท ขอนแก่น ทรานซิทซิสเต็มส์ จำกัด โดยรถไฟฟ้าสายแรกของขอนแก่นจะเป็นสายท่าพระ-บ้านสำราญ ระยะทาง 22.6 กิโลเมตร จำนวน 16 สถานี โดยรถ 1 ขบวน มี 3 ตู้โดยสาร บรรทุกผู้โดยสารได้ 100-180 คน
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2560 และคาดว่าจะเปิดใช้ได้ปี 2562-2563
เชียงใหม่ วาง 3 เส้นทาง 2 โครงข่าย
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำแผนแม่บท ลงรายละเอียดแนวเส้นทาง และสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยโครงการประกอบด้วย 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1.สายสีแดง (ศูนย์ราชการฯ-สนามบิน-แม่เหียะ) 2.สายสีน้ำเงิน (สวนสัตว์เชียงใหม่-ท่าแพ-ดอนจั่น) และ 3.สายสีเขียว (แม่โจ้-กาดหลวง-สนามบิน) ล่าสุด เพิ่งเคาะแนวเส้นทางออกมาเป็น 2 รูปแบบ คือ โครงข่าย A เป็นระบบรถไฟฟ้าใต้ดินและบนดินมีทางวิ่งเฉพาะ และโครงข่าย B เป็นระบบรถไฟฟ้าบนดินระดับผิวถนน สามารถใช้ช่องจราจรร่วมกับรถอื่น ๆ ได้
โดยคาดว่าจะส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ให้กับ สนข. ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และจะนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาในเดือนกันยายนนี้ ก่อนจะยื่นให้ ครม. อนุมัติต่อไป
โคราช เลือกรถไฟฟ้ารางเบา 3 เส้นทางหลัก
ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าในนครราชสีมายังอยู่ระหว่างการศึกษาแผนแม่บทจราจรและแผนแม่บทพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อส่งให้ สนข. พิจารณาอนุมัติหรือแก้ไข โดยผลการศึกษาเบื้องต้นเลือกใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเบา โครงสร้างทางวิ่งระดับพื้นดิน มี 3 เส้นทางหลัก คือ 1.สายสีเขียว โคกกรวด-จอหอ 2.สายสีส้ม ดูโฮม-วิ่งวนในเมืองชั้นใน และ 3.สายสีม่วง เซฟวัน-จอหอ ค่าโดยสารประมาณ 15-20 บาทตลอดสาย
แผนการดำเนินโครงการมี 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 สายเขียวและส้ม ออกแบบรายละเอียดปี 2562 ก่อสร้างระบบปี 2563-2565 และเปิดให้บริการเร็วที่สุดปี 2566 ระยะที่ 2 สายสีม่วง ออกแบบรายละเอียดปี 2565 ก่อสร้างระบบปี 2566-2568 และเปิดให้บริการเร็วที่สุดปี 2569 และระยะที่ 3 ส่วนต่อขยายทั้งหมด อาทิ สีเขียวอ่อน ส้มอ่อน และม่วงอ่อน ออกแบบรายละเอียดปี 2568 ก่อสร้างระบบปี 2569-2571 เปิดให้บริการเร็วที่สุดปี 2572 คาดว่าจะใช้งบก่อสร้างประมาณ 15,000 ล้านบาท
พิษณุโลก อยู่ในช่วงตั้งไข่ จัดทำแผนนำร่อง
พิษณุโลก เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแนวโน้มเติบโตเป็นอย่างมาก ทั้งการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจ รถไฟทางคู่สายปากน้ำโพ-เด่นชัย และโครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก เชื่อมโยงการเดินทางของนักท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้เชื่อมโยงและรองรับการจราจรและขนส่งในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ พิษณุโลกยังอยู่ระหว่างการเริ่มจัดทำแผนนำร่อง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารถไฟฟ้ารางเบาและโมโนเรลจะเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้นของผู้คนในจังหวัดภูมิภาค ซึ่งส่งผลดีต่อการจราจรในอนาคต แต่แน่นอนว่าส่วนหนึ่งจะไปกระทบต่อผู้ให้บริการรถรับจ้างในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ซึ่งภาครัฐควรพิจารณาในจุดนี้ด้วย
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
