ตลาดรับสร้างบ้าน หรือบ้านสร้างเอง เป็นหนึ่งในธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของตนเอง แม้ว่าปัจจุบันจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภคที่หันมาพึ่งบริษัทรับสร้างบ้านมากกว่าไปเสี่ยงกับผู้รับเหมาโนเนม แม้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 ตลาดยังคงทรงตัว จากความระมัดระวังการใช้เงินของผู้บริโภค แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดมีแนวโน้มสดใสจากสภาพเศรษฐกิจที่มีทิศทางขาขึ้น และการวางโรดแมปของทางภาครัฐ จึงคาดว่าจะผลักดันให้ตลาดรับสร้างบ้านโตได้เพิ่มขึ้นจากปี 2559
ครึ่งปีหลัง มีปัจจัยบวก ดันตลาดโต 5-10%
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ค่อนข้างทรงตัว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังสูง แต่มองในแง่ดีตลาดน่าจะเติบโตได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มูลค่าตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 10,200 ล้านบาท หรือหากจะเติบโตก็ก็น่าจะอยู่ที่ 5-10% จากปี 2559 โดยมีปัจจัยบวก ดังนี้
1.การส่งออกดีขึ้น
2.ความชัดเจนในโรดแมปที่รัฐบาลผ่านรัฐธรรมนูญไปสู่การเลือกตั้ง
3.อานิสงส์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีความคืบหน้าและชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
4.กลุ่มผู้บริโภคหมดภาระการผ่อนชำระจากโครงการรถยนต์คันแรก
5.สถาบันการเงินต่าง ๆ แข่งขันกันออกแพ็กเกจดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้บริโภคที่ต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินกันมากขึ้น ทั้งนี้เพราะการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจรับสร้างบ้านไม่มี NPL จึงทำให้สถาบันการเงินสนับสนุนอย่างเต็มที่
สอดคล้องกับบริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด ที่มองว่าภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดีขึ้น โตขึ้นประมาณ 10-15% จากปีที่ผ่านมา ส่วนในครึ่งปีหลังมีปัจจัยหลายด้านที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งปัจจัยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจในการสร้างบ้าน จากนโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และการปรับราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาบ้านอาจจะปรับราคาขึ้นในอนาคต มีโอกาสให้ลูกค้าตัดสินใจสร้างบ้านได้ง่ายขึ้น

via www.pixabay.com
รับสร้างบ้าน ตจว. มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น
สำหรับตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของภาครัฐทางด้านการคมนาคม อาทิ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ที่ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ พบว่า ตลาดบ้านสร้างเองเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในต่างจังหวัดมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ที่ค่อนข้างเงียบ โดยเฉพาะหัวเมืองเศรษฐกิจหรือการค้า และเมืองท่องเที่ยวของภูมิภาค อาทิ ชลบุรี สระบุรี เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา
โดยมีผู้ประกอบการแข่งขันอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นรายเล็กรายย่อย ที่เน้นจับตลาดบ้านระดับราคา 8 แสน-1 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นช่วงราคาที่ผู้บริโภคมีความต้องการปลูกสร้างมากที่สุด โดยมีสัดส่วนประมาณ 70-80% ของตลาดบ้านสร้างเองต่างจังหวัด กลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ส่วนใหญ่เลือกใช้กลยุทธ์ราคาต่ำ ไม่เน้นคุณภาพสูงมากนัก และ 2.กลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านจากกรุงเทพฯ ที่ขยายสาขาออกไปยังต่างจังหวัด กลุ่มนี้จะเลือกจับตลาดบ้านระดับราคา 2-20 ล้านบาทเป็นหลัก โดยกลยุทธ์ที่ใช้แข่งขันจะเน้นความน่าเชื่อถือ คุณภาพและบริการครบวงจรเป็นหัวใจสำคัญ

via www.pixabay.com
เตือนผู้บริโภครอบคอบ ไม่เห็นแก่ของถูก
ปัจจุบันตลาดรับสร้างบ้านเปิดกว้างมาก หากเปรียบเทียบกับยุคก่อนหน้านี้ ทำให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เกิดขึ้นและเข้ามาในธุรกิจนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ปัจจัยสนับสนุนหลัก ๆ ก็คือสื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย ที่ช่วยให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ๆ นั้น มีทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ทำให้ผู้บริโภคเองก็ต้องมีความรอบคอบมากขึ้น เพราะหากตัดสินใจเลือกโดยไม่ได้ยึดเหตุผลและความเป็นจริง อาจผิดหวังและเสียใจในภายหลัง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจพลาดก็คือ ข้อเสนอราคาต่ำเกินจริง เช่น อ้างว่าสามารถซื้อวัสดุจากโรงงานได้โดยตรง ในราคาถูกกว่าท้องตลาด 30-50% หรือหลอกลวงว่าเป็นบริษัทในเครือหรือสาขาของบริษัทรับสร้างบ้านแบรนด์ดัง
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน